Microsoft ร่วมกับ IDC ปริปากวิจัย ความถนัดสำคัญในที่พื้นแผ่นดินกาลเวลา AI รวมความว่า ‘ความคิดสร้างสรรค์’

บอกวิจัยแห่งหนกระไอกระแอมบริสุทธ์ซีทำขึ้นไปร่วมกับไมโครซอฟท์ บอกความถนัดซึ่งเป็นที่ต้องการสิ่งของตลาดแรงงานภายหน้า ประกอบด้วยหน่วยงานที่แหลมทองพ่าง 20% แค่นั้นที่คืบหน้าแบบอย่างปรับปรุงเจ้าหน้าที่เพื่อไปสู่กาลเวลาสรรพสิ่ง AI อย่างเต็มที่ บอกการศึกษาค้นคว้าเพราะว่าไมโครซอฟท์กับกระไอกระแอมบริสุทธ์ซีคว้าบอกจรดที่ว่างแห่งหนยังต้องเติมเต็มในแง่ของความสามารถกับประสิทธิภาพบุคลากรณตลาดแรงงานประเทศไทย โดยผลการวิจัยดังกล่าว ซึ่งมีหัวนอนปลายตีนจากการตรวจตราหน่วยงานงาน 101 แห่งในประเทศ ยังพบพานอีกดุ เฉียดฉิวซีกสรรพสิ่งการงานพวกนั้นอีกต่างหากไม่ไหวทำใดๆ เพื่อพัฒนาความชำนาญสรรพสิ่งบุคลากรแจกใช้ประโยชน์ขนมจาก AI ได้มา “เทคโนโลยี AI มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นแผ่นดินสิ่งของรวมหมดการทำงานด้วยกันลูกค้า ณพื้นโลกยุคใหม่แห่งประกอบด้วยการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลานี้ สูงสุดนับวันก็ยิ่งมีสายงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีลดน้อยลงช้าๆ ขณะเมื่อเด็กนักเรียนนักศึกษามากมายณปัจจุบันจะเรียนจบออกมาสู่ตลาดแรงงานแห่งหนเต็มไปด้วยตำแหน่งงานเรื่องเดิมขึ้นใหม่ ยังพ้นไปสิงสู่ณปัจจุบัน” ลุกในธนวัฒน์ สุคุณความดีจำพวก เอ็มดี กงสี ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ทูล คุณธเก้าัฒน์ สุธรรมจำพวก เอ็มดี บริษัท ไมโครซอฟท์ (ไทย) จำกัด การทำงานจำนวนมากคว้าริเริ่มสนใจกับพลังสรรพสิ่ง AI ณการขับกรีธากับยกฐานะสมรรถภาพสรรพสิ่งพวกเขา จึงเกิดเรื่องขาดไม่ได้ที่หน่วยงานพวกนั้นจักลงทุนมิได้พางที่ปีกเทคโนโลยีเพียงนั้น เสียแต่ว่ายังรวมถึงการพัฒนาคนเพื่อจะก่อสร้างการเปลี่ยนแปลงชนิดจิรังภายหน้าอีกด้วย ทูลการศึกษาค้นคว้ารวมระหว่างไมโครซอฟท์และกระไอกระแอมบริสุทธ์ภาษาซีระบุดุ มีหน่วยงานงานแหลมทองเพียง 20% เท่านั้นแห่งคบคิดกับเริ่มแรกการพัฒนาพนักงานจ่ายพร้อมเนื่องด้วยเทคโนโลยี AI ชนิดครอบคลุมด้วยกันยิ่งนักหลังจากนั้น ขณะเมื่อ 32% ริเริ่มการพัฒนาณบางส่วน ขณะเมื่อ องค์กรที่ีร่วมในการตรวจตราจุดยืนถึง 48% อีกทั้งเปล่าเริ่มดำเนินการใดๆ เพราะว่าในหมู่ตรงนี้ มีถึง 21% แห่งอีกต่างหากไม่มีแผนกระทำงานข้างความสามารถสิ่งของพนักงานเกิน มร.ไมเคิล อะหยุดเน็ตดวงตา รองประธานจัดการ ไอดีภาษาซี ไฟแนนเชียล อินไซต์ ประเทืองดุ “เราอีกต่างหากประกอบด้วยข่าวดีอยู่บ้างณด้านสิ่งของการตกลงแหวพนักงานครอบครองปัจจัยสำคัญเพื่อการทำงานข้างหน้า ซึ่งเป็นพืดไตร่ตรองที่ชัดแจ๋วด้วยกันติดจะแพร่หลายในประเทศแหลมทอง เพราะการงานประเทศไทย 77% ระบุดุพวกเขาจักให้ทุนในตัวบุคลากรจ่ายทัดเทียมกับดักหรือยิ่งกว่าเทคโนโลยี AI นอกจากนี้ บริษัทกับบุคลากรอีกทั้งมีความเห็นด้วยกักคุมเกี่ยวกับบทบาทหลักเขตสิ่งของผู้ว่าจ้างที่การสร้างเสริมความชำนาญแจกกับดักพลังงาน โดย 93% ของเท้าหน้าองค์กร และ 89% สรรพสิ่งพนักงานมองว่าหน่วยงานจำต้องดำรงฐานะเท้าหน้าในความนี้” ครั้นกล่าวขวัญผลกระทบกระเทือนขนมจากเทคโนโลยี AI ประกบการทำงานวันข้างหน้า กันและกันแตกต่างเหล่จรในวันเวย์กัน เพราะ 77% สิ่งของเท้าหน้าหน่วยงาน กับ 58% สิ่งของบุคลากร หวังดุเทคโนโลยีดังกล่าวจักช่วยเพิ่มพลังแจกเขาทั้งหลายสามารถกระทำได้ดิบได้ดีขึ้นไม่ก็มีประสิทธิภาพจำเริญ ระหว่างที่ผู้นำการทำงาน 13% กับพลังงาน 19% เห็นโอกาสใหม่ๆ จากตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องชดใช้ปัญญาความสามารถ กับประกอบด้วยเท้าหน้าการทำงานพ่าง 5% และบุคลากร 13% แค่นั้นที่เชื่อแหว AI จะลงมาแย่งการงานจากมนุษย์ ความสามารถสำคัญซึ่งเป็นที่ต้องการสำหรับตำแหน่งหน้าที่ข้างหน้า จากทูลวิจัยอย่างดังกล่าว เท้าหน้าหน่วยงานงานแหลมทองเจาะจงดุความถนัดที่มีความสำคัญตกขอบเพื่อบุคลากรข้างหน้า เป็นต้นว่า ความคิดสร้างสรรค์ (52%) ความสามารถทางดิจิทัล (51%) ด้วยกันความถนัดการคิดวิเคราะห์หรือความถนัดข้างสถิติ (50%) นอกจากนี้ ผลวิจัยยังทำนายตวาดผลรวมกำลังแรงงานแห่งหนมีความถนัดณรวมหมดตรัยข้างตรงนี้ ด้วยกันความสามารถณการวิจัยและการพัฒนาชายวิชาวิทยาศาสตร์ จะไม่พอทาบความปรารถนาของตลาดณอีก 3 ชันษาข้างหน้า “อีกข่าวสารสำคัญที่น่าสังเกตตกว่าความต่างกันระหว่างความคาดหมายสิ่งของผู้นำการงานและเจ้าหน้าที่ ในงานคัดเลือกความถนัดสำคัญแห่งจำเป็นต้องพัฒนาเพื่อจะอนาคตกาล ผู้บริหารณองค์กรไทยหลงเชื่อแหว เจ้าหน้าที่ที่ประกอบด้วยความเก่งกาจจำเป็นต้องมีมากกว่าเพียงความชำนาญทางเทคนิค เพราะตรัยความสามารถแห่งหนมีที่ว่างจังตกขอบระหว่างทรรศนะของผู้นำและบุคลากรในกรณีความหมายตกว่า การบริหารบริหารแผนการ (ผิดแผกกัน 16%) ความเป็นหัวหน้าด้วยกันการปกครองบริหารมนุษย์ (ผิดแผกกักคุม 14%) ด้วยกันความคิดสร้างสรรค์ (แตกต่างกักคุม 13%)” มร. อะหยุดเนตดวงเนตรเสริม นอกจาก เจ้าหน้าที่ปริมาณไม่ใช่หยอกอีกต่างหากรู้สึกไม่เชื่อมั่นในด้านความพร้อมสิ่งของวัฒนธรรมองค์กรเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาชดใช้ยิ่งกว่าเทศมนตรี เพราะว่าบุคลากรกว่า 72% หลงเชื่อตวาดหน่วยงานสรรพสิ่งตัวเปล่าอวยแยกออกเจ้าหน้าที่ต้านทานกับดักการเสี่ยง กระทำตกลงใจ หรือว่าปรับเปลี่ยนระเบียบการงานแยกออกว่องไวทันทีทันใดเพิ่มขึ้น ขณะเมื่อเหมือนกับ 45% มองว่าผู้บริหารในองค์กรของตนอีกต่างหากขาดการดุนจ่ายทั้งหมดสมคบคิดดันการเปลี่ยนแปลงเชิงรุกจากระดับเท้าหน้า ติดไฟที่ธเก้าัฒน์บอกเสริมอีกแหว “ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับดักการพัฒนาความชำนาญสิ่งของคนทั้งปวงเพศทั้งหมดคราวมาเป็นระดับเริ่มแรก เราจรรโลงคนรุ่นหลังที่ประกอบด้วยความเก่งกาจด้วยเครื่องมือกับความชำนาญที่สมน้ำสมเนื้อ ผ่านโครงการกระยาเลย เช่น Hour of Code #MakeWhatsNext และการแข่งขัน Imagine Cup เพื่อจะให้โอกาสแยกออกพวกเขาได้คิดค้นงานใหม่ๆ แห่งหนประกอบด้วยเรื่องเยี่ยมด้วยกันสะดุดตาเช่นกันพลังสรรพสิ่งเทคโนโลยี ซีกมากพัฒนาซึ่งหมายมั่นเริ่มต้นใช้งาน AI ก็สมรรถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ณอีกมากแผนการ อาทิ Microsoft AI School เพราะว่าไม่มีค่าใช้สอย ด้วยกันเพื่อที่จะความเจริญก้าวหน้าวันข้างหน้า ทั่วหน่วยงานและคนจำเป็นต้องมองการณ์ไกลกว่าเท่าการใช้เทคโนโลยี แต่ว่าจำต้องมุ่งมั่นที่จะบุกเบิกวิถีทางแห่งหนการบรรลุตามหลักของตัวเอง” PR NewsIDCMicrosoftCreativityFuture Skills