Microsoft พูดลูกค้าแหลมทองอีกทั้ง “ไม่ไว้แหมะใจ” Digital Privacy สิ่งของอาณาเขตการงาน

Microsoft พูดผลสำรวจปีกความน่าไว้วางใจสิ่งของ Digital แห่งการเห็นลูกค้า พานพบผู้ซื้อแหลมทองอีกทั้งไม่ไว้วางใจการจัดเก็บข่าวส่วนบุคคลมากกว่าซีกสำนักงานสืบสวน ผู้ซื้อชาวไทยระบุว่าภาครัฐบาลด้วยกันบริษัทผู้ผลิตเทคโนโลยีด้านแห่งจำต้องรับผิดชอบอันจะนำมาไปสู่ความวางใจในการใช้งานกบิล Digital เพื่อจะนำไทยไปไปสู่ Digital Economy อย่างเต็มที่ Microsoft แหลมทอง ชูขึ้นความหมายสรรพสิ่งงานสร้างความวางใจแห่งเรือแพลตฟอร์มดิจิทัลตลอดที่ริมเทคโนโลยีกับทีเด็ด เน้นย้ำบทบาทการช่วยกันระหว่างภาครัฐบาลกับภาคเอกชนแห่งงานวางนโยบายมอบเข้าสังคมคว้าก้าวหน้าเคียงข้างนวัตกรรม AI อย่างถาวร พร้อมเล่าผลสำรวจทัศน์ผู้ซื้อประเทศไทยในปีกสวัสดีกับความเป็นส่วนตัวสิ่งของข่าวสาร ยุคปัจจุบัน แพลตแบบฟอร์มบริการด้วยกันการทำธุรกรรมต่างๆ ในประเทศประเทศไทยได้มาถูกยกระดับสู่ระเบียบดิจิทัลห้ามอย่างกว้างขวาง ตลอดแห่งภาครัฐและภาคเอกชน มองเห็นคว้าจากพวกการทำงานการเงินการธนาคาร แห่งประเทศไทยประกอบด้วยอัตราการเข้าถึงบริการทางการเงินต้นฉบับดิจิทัลสูงศักดิ์เต็มที่ในพื้นแผ่นดิน แล้วจึงทำเอาผู้ซื้อเริ่มหันมารับทราบจดความเสี่ยงปีกความปลอดภัยกับความเป็นส่วนตัวสิ่งของข่าวสารที่โลกออนไลน์ เพราะว่าความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้มาจากหมวดโจรไซหมายเลขเพียงนั้น แม้ว่าอีกต่างหากหมายรวมความไม่รัดกุมสรรพสิ่งหน่วยงานการทำงานพร้อมด้วย คุณโอม ศิวะดิตถ์ เทศมนตรีข้างหลักภาครัฐ หุ้นส่วน ไมโครซอฟท์ (แหลมทอง)เธอโอม ศิวะดิตถ์ ผู้บริหารข้างแนวทางภาครัฐบาล หุ้นส่วน ไมโครซอฟท์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “ถึงแม้ผู้ซื้อจะพาห้ามหันไปเลือกใช้งานบริการดิจิทัลสมบูรณ์ค่อยๆ กลับพบพานตวาดยังมีระยะห่างสถานที่จำเป็นจะต้องเติมเต็มสิงสู่ในข้างความวางใจ โดยผลสำรวจของไอบริสุทธ์ซีพบว่าลูกค้าจำนวนมากอีกทั้งขาดความมั่นใจในประสิทธิภาพสิ่งขององค์กรปะปนกัน ดุจักสามารถปกป้องข้อมูลเฉพาะตัวของพวกเขาจ่ายหนักแน่น หรือไม่ใช้ประโยชน์ในมุขแห่งไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน งานประกาศใช้กฎเกณฑ์นวชาตๆ ประการพ.ร.บ.คุ้มครองข่าวสารเฉพาะบุคคลจักทำเอาการทำงานต้องคืบหน้าปรับนิสัยมอบเป็นไปตามกฏเกณฑ์ เพื่อที่จะงานไปงานอย่างถูกต้อง ชัดเจน เสริมสร้างความเชื่อมั่นมอบกับดักผู้ซื้อได้ตลอดในประเทศและนอกด้าว” คนไทยอรรธยังไม่มั่นใจที่ Digital Security Microsoft ร่วมกับ IDC เล่าผลงานวิจัยปีกความมั่นใจแห่ง Digital Security ระดับถิ่นเอเชียแปซิฟิกเกี่ยวกับผู้ซื้อ เพราะข้อคิดเห็นสถานที่น่ารู้ขนมจากลูกค้าคนไทยประกอบด้วยดังนี้ 51 อัตราร้อยละสิ่งของลูกค้าประเทศไทยยังเปล่าสำคัญใจตวาดผู้ให้บริการดิจิทัลจะจับข่าวสารส่วนตัวสิ่งของพวกเขาไปใช้งานประการโปร่งกับเชื่อถือได้ ทั้งที่ผู้ใช้ประเทศไทยจะคิดว่าทั่ว 5 ปัจจัยสำคัญมีความหมายในชั้นเดียวกัน แต่ว่าผลสำรวจพบพานตวาดปัจจัยแห่งลูกค้าสนใจน้อยที่สุดคือว่าการปฏิบัติติดตามกฏเกณฑ์และข้อกฎหมาย (compliance) ขณะเมื่อตลาดอีคอมเไม่ร์ซในประเทศแหลมทองเจริญโดยด่วน อีกด้วยมูลค่าการขายร่วมดอนจด 3.15 ล้านโล้นเท้าครั้นพรรษาที่ผ่านมา แต่พบตวาดกลุ่มงานค้าปลีกลงความว่ากลุ่มแห่งลูกค้าประกอบด้วยความแน่ใจน้อยที่สุดที่ปีกงานเก็บรักษากับใช้งานข่าวเฉพาะบุคคล ผู้ใช้คนไทยเชื่อว่ารวมหมดภาครัฐและภาคเอกชนจักต้องทำสมคบคิดเพื่อสร้างหลักเกณฑ์ด้วยกันกรอบริมแนวทางที่จะช่วยสร้างความแน่ใจในบริการดิจิทัล กับการพาเทคโนโลยีนวชาตชนิด AI ลงมาดัดแปลง เพราะผู้ซื้อแห่งหมวด Gen Z คิดว่าภาคเอกชนควรต้องออกตัวเป็นผู้นำ อันตรายร้าย Digital ในแหลมทองพุ่งสูงศักดิ์กว่าค่าเฉลี่ยโลก ขณะเดียวกัน โจรไซเลขหมายยังคงก่นเล่นงานตลอดลูกค้ากับท้องถิ่นงานเช่นกันเทคนิคกระบวนการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะเสนอ Security Intelligence Report (SIR) ระบิลแห่ง 24 สรรพสิ่งไมโครซอฟท์ จับใจความดุปากเหยี่ยวปากการ้าย 4 อันดับเริ่มแรกสำหรับลูกค้าอินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ได้มาอายุมากมัลแวร์ธารณะ สูงกระทั่งค่าเฉลี่ยพื้นโลก 107 เปอร์เซ็นต์ มัลแวร์สถานที่โค่นตระกูลเงินดิจิทัล สูงโคนตวาดค่าเฉลี่ยพื้นโลก 133% มัลแวร์เรียกหาค่าไถ่ รุ่งเรืองกระทั่งค่าเฉลี่ยพื้นแผ่นดิน 140 อัตราร้อยละ ด้วยกันการหลอกลวงล่อพร้อมด้วยเว็บไซต์ รุ่งเรืองกว่าค่ากลางพื้นแผ่นดิน33 เปอร์เซ็นต์ “ข่าวสารทั้งผองนี้บอกให้เห็นว่าการทำงานในเวลาดิจิทัลจำเป็นจะต้องพบเห็นกับความเสี่ยงที่แนวทางนวชาตๆ จากมากช่องทาง ทั่วขนมจากภายนอกกับในองค์กรเอง การสร้างความไว้ใจแห่งกลุ่มผู้ซื้อแล้วก็ดำรงฐานะการงานที่ท้าทายใช่เล่นสำหรับทุกองค์มือ” นายโอมรายงานเสริม “งานค้นคว้าวิจัยฉบับนี้อีกต่างหากเจาะจงอีกตวาดผู้ซื้อประเทศไทยจด 42 อัตราร้อยละ คุ้นพานพบกับปัญหาที่การใช้งานบริการดิจิทัลสถานที่ทำเอาเสียความมั่นใจ โดยที่ผู้ซื้อกระทั่ง 62 เปอร์เซ็นต์ ในพวกตรงนี้ตัดสินใจหันไปใช้คืนบริการคู่ปรับผลัดเปลี่ยนเมื่อจำต้องพบเห็นกับโจทย์ดังกล่าว ขณะเมื่อ 33% จะหยุดใช้คืนบริการไปประการยอดฉีกขาด” พรบ. คุ้มครองข่าวเฉพาะบุคคลที่ประเทศไทย ตัวแปรแห่งงานจำเป็นจะต้องกำราบ การลงมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มกันข่าวสารเฉพาะบุคคลไม่นานมานี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งสาวเท้าสำคัญสิ่งของแหลมทองบนเส้นทางไปสู่สังคมดิจิทัลบริบูรณ์หนทาง พร้อมด้วยการทุบริมแยกออกชัดแจ๋วว่าเจ้าตำรับข่าวเฉพาะบุคคลประกอบด้วยอำนาจไรบ้างเหนือข่าวสารนั้นๆ วางแนวทางงานคุ้มครองข้อมูลเฉพาะบุคคลเปล่าจ่ายไม่ผิดใช้ประโยชน์แห่งมุขที่ล่วงล้ำสิทธิของคนคิดข่าว พร้อมกำหนดวิธีการสถานที่หน่วยงานหรือผู้ให้บริการจักต้องทำงานในกรณีที่เกิดเรื่องข่าวสารรั่วขึ้นไป แล้วจึงนับว่าเป็นการกำคราวดมาตรฐานด้านการบริหารบริหารข่าวสารประเภทตรงนี้ในประเทศแหลมทองแยกออกเป็นไปตามมาตรฐานสากล “งานประกาศใช้ข้อบังคับระบิลนี้ถือว่าดำรงฐานะฐานรากสำคัญสถานที่ไทยจะจำต้องประกอบด้วย ก่อนที่เปิดรับเทคโนโลยีแห่งขับเคลื่อนด้วยข่าวชนิด AI มอบเข้าครอบครองส่วนหนึ่งส่วนใดสิ่งของสังคม” นายโอมเสนอ “ขณะนี้ พรบ. ดูแลรักษาข่าวสารส่วนบุคคลยังคงสิงสู่ในตอนงานคอยประกาศใช้ เพราะจะมีสมัยผ่อนผันจ่ายภาคเอกชนได้มาปรับนิสัยภายหลังที่บังคับใช้แล้ว แล้วจึงครอบครองโอกาสอันดีแยกออกการทำงานที่ทุกอุตสาหกรรม ทั้งหมดขนาดหน่วยงาน คว้ากระทำทำความเข้าใจข้อกฎหมายโดยละเอียด ไม่ว่าจักดำรงฐานะ พรบ. อย่างตรงนี้ของไทย หรือกฎหมาย GDPR แห่งบังคับใช้แห่งกลุ่มแดนสมาคมยุโรป เพื่อจะทำให้เรียบแนวทางการทำงานแยกออกเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ แผ่ทางจากไปสู่การพัฒนาการทำงานต่อไปอย่างถาวร และปกป้องฐานผู้ใช้จ่ายเหนียวแน่นเช่นกันความพร้อมในตลอด 5 ปัจจัยเสา” “หนึ่งในส่วนประกอบหลักที่จะช่วยแยกออกหน่วยงานจัดการคว้าประการประกอบด้วยหลักเกณฑ์ คือว่าการคัดเลือกใช้เทคโนโลยีแห่งตามมาตรฐานรวมหมดแห่งข้างความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย ความมั่นคง ด้วยกันความประพฤติติดสอยห้อยตามข้อกฎหมายที่พัวพันในระดับนานาชาติ ไมโครซอฟท์เองพร้อมที่จะเข้ามาสงเคราะห์ท้องถิ่นธุรกิจในด้านนี้พร้อมด้วยแพลตฟอร์มคลาวด์ ไมโครซอฟท์ อาซัวร์ ซึ่งมีคุณลักษณะที่ซูบโจทย์แห่งปีกนี้อย่างครบครบ” NewsPrivacyMicrosoftGovernmentCybersecurity