Japan Consumption Tax Hike สุดทางสรรพสิ่งญี่ปุ่นกับดักงานขึ้นไปค่าธรรมเนียมการกิน

กระผมอยากให้ทุกคนลองนึกคิดตวาดอีฉันจักมีความรู้สึกเช่นไร ด้วยกันจะกำหนดแผนการเงินตรายังไง แม้ต้องตื่นลงมาที่วันพรุ่งนี้พร้อมด้วยสนนราคาสินค้ากับบริการที่ดอนขึ้นไป เรื่องดังกล่าวบังเกิดในประเทศญี่ปุ่นพอตอนต้นจันทร์เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยเหตุที่ประเทศญี่ปุ่นได้มามีการปรับขึ้นภาษีการบริโภคขนมจากเดิม 8% ครอบครอง สิบ% ภายหลังมีการเลื่อนที่การขึ้นภาษีอากรมาแล้วถึงสองครั้ง โดยภาษีดังกล่าวมีผลกระทบหมายรวมผลิตภัณฑ์อุปโภคกินเฉียดทั้งหมดประเภท ยกเว้นพ่างบางอย่าง เป็นต้นว่า อาหารสด ของกินแห่งหนจับจ่ายเพื่อหม่ำแห่งหนบ้าน กับนสพ.หรือว่านิตยสารแห่งหนมีการพิมพ์ยิ่งกว่า 2 หนขึ้นดามสัปดาห์ เป็นอาทิ ที่ยังคงอัตราภาษีณระดับเดิม ทั้งนี้ รัฐบาลประเทศญี่ปุ่นทำนายดุจักสมรรถก่อสร้างเงินรายได้ให้รัฐบาลญี่ปุ่นทวีเฉก 5-6 กล้อนกล้อนเยนทาบพรรษา โดยการขึ้นภาษีการบริโภคณคราวนี้ประกอบด้วยวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อจะจับไปลบล้างรัฐบาล โดยที่พรรษา 2018 หนี้รัฐบาลญี่ปุ่นมีมูลค่ารุ่งเรืองจด 1,301 กล้อนกล้อนเยน หรือว่าเหมือนกับ 237% สรรพสิ่ง GDP นอกจากนี้ อีกทั้งนำไปใช้ในการอนุเคราะห์ปีกการหาความรู้ งานดูแลลูกชาย กับค่าใช้จ่ายปีกสวัสดิการสังคมด้วย เช่นนี้ อย่างที่ทราบกันบริสุทธ์จัดการขึ้นภาษีการบริโภคนั้นจักส่งผลแจะทางตรงดามกำลังซื้อสรรพสิ่งผู้ซื้อและเศรษฐกิจสิ่งของด้าวเสียแต่ว่าทำไมญี่ปุ่นถึงจำต้องหยวนเสี่ยงด้วยกันเดินหน้าหลักการขึ้นภาษีถัดจาก ด้วยกันเพราะเหตุไรหนี้สินรัฐบาลสิ่งของประเทศญี่ปุ่นนั้นถึงดำเกิงจดระดับนี้ได้มา เพราะความดังที่กล่าวมาแล้วจำเป็นต้องทบทวนเจียรตั้งแต่ในระยะทศวรรษแห่งหน 1980 ซึ่งเศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้นเจริญประการสาวก้าวกระโดดด้วยกันดำรงฐานะที่น่าอิจฉาประกบมากมายประเทศทั่วโลก ถึงอย่างไรก็ตาม รูปการณ์ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ด้วยกันตลาดหลักทรัพย์ในปี 1989 ส่งผลตีราคาพื้นดินด้วยกันราคาหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นน้อยลงอย่างหนัก ซึ่งนี่นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นให้ญี่ปุ่นประสบกับภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซากับสาวเท้าเข้าสู่กาลเวลาแห่งหนเรียกตวาด ‘The Lost Decade’ ซึ่งกินระยะเวลาช้านานกว่า 20 ปี อีกนัยหนึ่งที่ตอนชันษา 1991-2018 เศรษฐกิจญี่ปุ่นแผนภูมิจัดโชว์ตำแหน่งการก้าวหน้าสรรพสิ่งเศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโตถัวเฉลี่ยแทบพรรษาละ 1% เปรียบเทียบกับดักตำแหน่งงานเจริญถัวเฉลี่ยณช่วง 1981-1990 ที่อาศัยเฉก 4.5% ดามปี เพราะณช่วงเวลาดังที่กล่าวมาแล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นมานะบากบั่นทั้งปวงแนวเพื่อจะประคับประคองให้เศรษฐกิจสิ่งของด้าวสมรรถเติบโตถัดไปคว้า โดยเฉพาะงานตัดทอนดอกแนวนโยบายเพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งนี้นับแต่การขึ้นดอกเบี้ยเพื่อจะหยุดเดโชพลังสรรพสิ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้นที่ชันษา 1989 แห่งหนเป็นตอนก่อนฟองสบู่ถลาย อัตราค่าดอกเบี้ยหลักสรรพสิ่งญี่ปุ่นก็อยู่ที่ทิศทางคะยอมโดยตลอดกับอยู่ที่ชั้นแห่งติดลบณช่วงปัจจุบันนอกจากนี้ ชิ้นที่รอทับถมปัญหาเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นตกว่า โครงสร้างประชาชนของแดนที่สาวก้าวเข้าสู่เข้าผู้เข้าคนคนชรา เพราะในชันษา 2018 ประเทศญี่ปุ่นประกอบด้วยส่วนสัดราษฎรแห่งแก่ 65 ปีขึ้นสูงถึง 27.6% สรรพสิ่งประชาราษฎร์รวมหมดแดน ซึ่งมีผลแจะที่ทางหักประกบงานก้าวหน้าสิ่งของเศรษฐกิจ ดังที่คนชรามีแนวโน้มงานเสพด้วยกันงานใช้จ่ายที่มีข้อจำกัดเจริญ ด้วยกันนอกจาก ส่วนสัดราษฎรสูงอายุแห่งหนเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งเป็นเหตุให้ปัญหาใหญ่อีกชนิดถือเอาว่า รายการจ่ายปีกสวัสดิการสังคมที่สูงขึ้นไปติดสอยห้อยตามไปด้วย เพราะว่าในปี 2000 โสหุ้ยสวัสดิการสังคมที่ญี่ปุ่นนึกดูครอบครอง 17.6% สรรพสิ่งงบดุลค่าใช้จ่าย และสัดส่วนดังกล่าวได้ทวีคูณโดยเร็วจนกระทั่ง 33% ที่ชันษา 2018กราฟจัดแสดงส่วนสัดประชาราษฎร์ประเทศญี่ปุ่นตามช่วงอายุจากเรื่องราวข้างต้น ทำเอาดีฉันพอเห็นภาพบริหารขึ้นนโยบายค่าธรรมเนียมงานเสพน่าจะเป็นเครื่องอุปกรณ์ท้ายๆ แห่งรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นตกค้างด้วยกันจำเป็นต้องจับลงมาใช้คืนเพื่อจะหาเลี้ยงตัวมาช่วยเหลือรายการจ่ายด้านสวัสดิการสังคมแห่งหนยังคงมีแนวโน้มทวีคูณรุ่งเรืองขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อรักษาความคงตัวการคลังสิ่งของแดนให้เสถียรยิ่งขึ้น ซึ่งการทำให้เรียบขึ้นภาษีณคราวนี้ยังคงสร้างความวิตกกังวลดุคงฉุดแยกออกเศรษฐกิจญี่ปุ่นในระยะ3 เดือนสุดท้ายสิ่งของด้านเจียนมาหดตัวอีกครั้ง ดังที่งานทำให้เสมอขึ้นไปค่าธรรมเนียมรอบก่อนจาก 5% เป็น 8% ที่จันทราเมษายน ปี 2014 มีผลกระทบแจะทาบเศรษฐกิจประเทศญี่ปุ่นด้วยกันงานเสพในประเทศอย่างรุนแรง ถึงอย่างไรก็ตาม รัฐบาลประเทศญี่ปุ่นคาดการณ์ตวาดมาตรการช่วยเหลือระยะสั้น และมาตรการวิเศษจักสนับสนุนผลิดอกออกผลแจะเรื่องเดิมขึ้นไปเปล่าแรงประการครั้งก่อน เช่น การเงินเชื่อภาษีกลับ 2-5% ผ่านกระบิลสะสมแต้มถ้าลูกค้าซื้อสินค้าขนมจากร้านค้าง่ายซื้อ หรือว่าร้านค้าขนาดย่อมและขนาดกลางๆเพราะว่าผ่านทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ เป็นระยะเวลา 9 จันทรา รวมทั้งหลักงานอนุเคราะห์ผู้มีรายได้บางตา เป็นอาทิ แผนภูมิจัดโชว์อัตราการเจริญเศรษฐกิจด้วยกันการบริโภคดังนี้ SCB Chief Investment Office (CIO) มองว่า งานใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทืองโดยเฉพาะการลดอัตราค่าดอกเบี้ยยังคงมีโอกาสมีขึ้น เสียแต่ว่าปัจจุบันอัตราค่าดอกเบี้ยหลักสรรพสิ่งประเทศญี่ปุ่นจะสิงสู่ณชั้นที่ต่ำกว่า 0% หรือว่าติดลบแล้วจึงติดสอยห้อยตาม ด้วยเหตุที่จำนวนทางเศรษฐกิจและตำแหน่งเงินเฟ้อสรรพสิ่งประเทศญี่ปุ่นยังลดลงเป้าหมายแห่งหมายมั่น หมายรวมความเคลื่อนไหวของคุณค่าเงินตราเยแม่น้ำ่เป็นอีกเอ็ดจุดสำคัญทาบการตัดสินใจด้านหลัก ซึ่งความไม่เที่ยงดังที่กล่าวมาแล้วทำเอาการตัดสินใจออกทุนในประเทศญี่ปุ่นตรงนั้นควรจะต้องรอคอยเรื่องชัดแจ๋วสิ่งของการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแยกออกจำเริญ ยิ่งไปกว่านี้การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นคงหามิได้ทางเลือกแห่งหนเหมาะสมหลายณภาวการณ์ท้องตลาดแห่งหนประกอบด้วยความไม่เที่ยงดำเกิง ดังที่ทรัพย์สินเยนซึ่งเป็นเงินทองสถิรโดยมากเคลื่อนไหวแปรผันเมื่อถือสิทธิ์ความกระทบกระเทือนขนมจากเหตุการณ์ความไม่แน่นอนแตกต่าง ๆ ซึ่งจะมีผลแตะต้องดาม Sentiment สิ่งของนักลงทุนเช่นกันและอีกคดีหนึ่ง SCB CIO คิดว่าโจทย์สถานที่ญี่ปุ่นสถานที่กำลังพบปะสิงสู่นั้นคงตกเป็นข้อความแห่งหนสมรรถมีขึ้นกับดักแดนอื่นเช่นกันในภายหน้า เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจแห่งหนญี่ปุ่นพบปะสิงสู่ ตลอดงานเติบโตทางเศรษฐกิจที่ลุ่ม เครื่องมือแนวนโยบายการเงินชนิดการตัดทอนดอกริเริ่มมีข้อจำกัดเจริญ รวมทั้งงานสาวก้าวเข้าสู่เข้าสังคมคนสูงอายุ กลายเป็นข้อเสนอแนะที่เหลือแหล่แดนทั่วโลกกำลังประสบอยู่ ซึ่งสภาวะดังกล่าวคงดันแบ่งออกรัฐบาลในประเทศอื่นจำเป็นจะต้องหยิบนำเครื่องอุปกรณ์ทางการเงินการคลังที่ประกอบด้วยความเสี่ยงมากขึ้นมาใช้ กับปัญหาเชิงแบบสร้างกลุ่มนี้จะมีผลแตะต้องประกบการวางแผนการลงทุนณระยะยาว เขียนเพราะว่า : SCB Chief Investment Office (SCB CIO) PR NewsscbJapanpolicyTax HikeSCB Chief Investment Office