J Ventures เข้าไปถือหุ้นที่ “เทพบดี ฟินเทค” เตรียมการเจริญ Payment Gateway ที่ระบบกู้เงินฉบับร่าง P2P

วันวานตรงนี้ ธปท. เปิดเผยดุ กคออกข้อมูลกำหนดให้การงานสินเชื่อระหว่างคนกับดักคน (Peer-to-Peer Lending Platform) ดำรงฐานะการงานแห่งหนจำต้องขอประทานติดตามเรื่อง 5 แห่งหนข่าวสารสรรพสิ่งคณะปฏิวัติระบิแห่ง 58 โดยจำเป็นต้องเข้า Regulartory Sandbox ของ ธปท. ก่อนกำหนด หลังจากผ่านการทดสอบแล้ว แล้วจึงจะให้บริการได้มาจริง ล่าสุด หุ้นส่วน เอ็ม เอฟ อี ภาษาซี กำหนด (ฝูงชน) ไม่ก็ MFEC ผู้ประกอบธุรกิจบริการให้คำปรึกษา พัฒนา และแปะกบิลคอมพิวเตอร์ด้วยกันเครือข่ายการทำงานเทคโนโลยีสารสนเทศเหตุด้วยภาครัฐและเอกชน ประเจิดประเจ้อแหว คณะกรรมการบริษัทฯ ลงความเห็นอนุมัติจ่าย หุ้นส่วน มังสวิรัติ เวนประสบร์ส ขีดคั่น หรือ JVC (บริษัทแยกย่อยของหมู่ บมจ. มังสวิรัติภูตผีปีศาจ์ท ผู้พัฒนา ICO แห่งชื่อว่า JFinCoin) เข้ามีหุ้นณ “บริษัท เทพบดี ฟินเทค ขีดคั่น” ผู้พัฒนา Payment Gateway ที่ชื่อว่า ChillPay แห่งส่วนสัด 18.92% ค่าเงินลงทุนร่วม 21 กล้อนบาท อ่านกอปร ย้อนกลับมา Cryptocurrency และ ICO ในประเทศไทย ซึ่งกงสี เทพบดี ฟินเทค กำหนด เป็นบริษัทย่อยสรรพสิ่ง MFEC งาน Synergy ระหว่างกงสีย่อยสรรพสิ่งกลุ่ม JMART และ MFEC เฉพาะบุคคลหมู่ JMART เป็น Holding Company มีหุ้นส่วนในเครือ ได้แก่ บริษัท เจซาตาน์ท โมบาย ขีดคั่น, กงสี มังสวิรัติ ฟินเทค กำหนด, กงสี มังสวิรัติเอ็มครั้ง เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสซวนเซ็ส จำกัด (กลุ่มชน), บริษัท เจเอเอส อ่อนสเซ็ท ขีดคั่น (กลุ่มชน), กงสี สิงเกอร์แหลมทอง ขีดคั่น (มหาชน) และประกอบด้วย JVC เช่นกัน ปีก JVC ไม่มิดชิดตัวการสิ่งของงานเข้าไปซื้อใบหุ้นของ เทพบดี ฟินเทค ดุดำเนินต่อไปเพื่อจะเจริญ Payment Gateway Solution ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งสรรพสิ่งกระบิล JFIN Decentralized Digital Lending Platform (JFIN DDLP) สรรพสิ่งบริษัทฯ ด้วยกันครอบครองนโยบายดำเนินงานภายใต้ White Paper สรรพสิ่งโครงการ JFinCoin ที่จะจับเงินระดมทุนเข้ามาพัฒนากระบิลดังที่กล่าวมาแล้ว โดย JVC เตรียมการเปิดฉาก Digital Lending Platform (DLP) แห่งหนบริษัทฯ ได้พัฒนาขึ้นไปณภายใต้แบรนด์ “ป๋า” ซึ่งกะแหวเริ่มถลกให้บริการณจันทร์เดือนตุลาคม 2561 นี้ ด้วยกันสิงสู่ระหว่างปรับปรุงต่อเนื่องดำรงฐานะ Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) แห่งหนจับหยิบยก Blockchain เทคโนโลยีเข้าใช้ เพราะตั้งเข็มเสร็จณจันทราตุลาคม 2562 ติดตามขนบธรรมเนียมเดิมที่วางเก็บ เนื่องด้วยขนบธรรมเนียมในภายหน้าของพระอินทร์ ฟินเทค ประกอบด้วย 2 หลักการแห่งหน MFEC วางเก็บ ถือเอาว่า การเข็นเข้าไปตลาดหุ้น MAI ซีกอีกแนวทางตกว่า งานขายหุ้นจ่ายนักลงทุนแห่งมีแนวคิดการทำงานแห่งหนเหมือนกัน โดยมุข MFEC เชื่อแหวจะทำให้เกิดคุณประโยชน์สมรู้ร่วมคิดทั้งสองฝ่ายตอบโจทย์ทั่ว MFEC ขนมจากงานได้พาร์ทเนอร์มุขการงานแห่งหนประกอบด้วยความแข็งขมังสิ่งของหมู่เจปีศาจ์ท ต่อยอดอยากการครอบครอง Payment Gateway ของเข้าผู้เข้าคนสิ้นไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบภายใต้ธวัชทางการค้า “ChillPay” ในทางกลับกันทางกลุ่มเจซาตาน์ท ก็จักคว้าการทำงานทวีคูณขนมจากลูกค้าสิ่งของ ChillPay ซึ่งมีกกผู้บริโภคแห่งหนเซ็นสัญญากับ MFEC จากนั้นกระทั่ง 10 ราย จำนวนนี้บางรายลงมาเป็นหมู่บริษัท รวมๆแล้วมีท้องค้าขายที่มือกว่า 100 กงสี ซึ่งส่วนมากดำรงฐานะหมู่ธุรกิจ E-Commerce เพราะลูกค้าพวกดังที่กล่าวมาแล้วนี้ต่อไปสามารถชดใช้วงเงินผ่านการทำงาน J-Money สินเชื่อสิ่งของกลุ่มมังสวิรัติซาตาน์ทได้ ขณะเดียวกันยังเป็นการตอบโจทย์ระบบจ่ายเงิน (Payment Gateway) ของ ChillPay ที่เริ่มมีผลกระทบชายบวกจากงานแห่งธนาคารพาณิชย์ฟรีค่าธรรมเนียมงานน้ำเงิน แม้ว่า ChillPay จำเป็นต้องเสียค่าธรรมเนียม บริษัทฯ จึ่งต้องปรับพฤติกรรม เพราะว่าธุรกรรมผ่าน ChillPay แต่ละพรรษาเติบโตหลายทบร่างกาย ชันษา 2559 มีวงเงินธุรกรรมเปลี่ยนประมาณ 100 ล้านบาทา เพิ่มครอบครอง 3 เท่าตัวเป็น 300 กล้อนเท้าแห่งพรรษา 2560 ด้วยกันปีตรงนี้บริษัทฯ ตั้งเข็มเติบโตดำรงฐานะ 2 เท่าตัว ไม่ก็ประมาณการ 600 โล้นเท้า เพราะคุที่ศิริวัฒน์ตั้งเป้าหมายเงินรายได้งานก้าวหน้าของ บริษัท พระอินทร์ ฟินเทค จำกัด แหว ณพรรษา 2561 จักเติบโตจรด 2 เท่าตัว ครั้นเปรียบเทียบกับดักพรรษาที่ผ่านมา เพราะณระยะครึ่งพรรษาจำเดิมสรรพสิ่งปีตรงนี้ จอมน้ำเงินทรัพย์สินผ่านกระบิลประกอบด้วยเจริญเท่าๆ กับจอมทั้งปีสิ่งของปี 2560 แม้ว่าในแง่สรรพสิ่งกำไรคงจะไม่ได้ใหญ่เหมือนรายได้ ก่อนหน้า JFinCoin ก็กระทบกับดัก DevNetwork ด้วย Whitepaper แล้วก็ประกอบด้วยตัวนำซัดทอด JFinCoin ซ้ำตวาดท่วงท่าไม่ต่อสู้ดีงาม ขนมจากสนนราคาเริ่มต้น 6.60 บาทา เปลี่ยนเจียรแทบ 6 จันทรา เหลือพ่างกะ 1.70 เท้าเพียงนั้น ควรจะสืบเสาะดุธุรกิจใหม่สิ่งของหมู่ JMART ต่อจากนี้จักครอบครองเช่นไรถัดไป หมายเหตุขนมจาก Techsauce: การลงข่าวที่เกี่ยวข้องกับ ICO ด้วยกัน Cryptocurrency ดำเนินต่อไปเพื่อที่จะอัพเดทเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปเท่านั้น หามิได้งานชี้ชวนให้ออกทุนแต่ประการใด การลงทุนที่ช่องทางดังที่กล่าวมาแล้วเป็นวิจารณญาณกับการตกลงใจสิ่งของผู้อ่านข่าวเอง “การลงทุนมีการเสี่ยง ช่วยทำความเข้าใจประกาศก่อนกำหนดการตัดสินใจลงราคาต้นทุน” เสียงกองบรรณาธิการ Photo: StockSnap.ioประกาศนี้ แน่ๆ คือการรวมออกทุนที่กงสีผู้พัฒนาระบบ Payment เสียแต่ว่ากระบิล Payment นี้จะถูกเจียรใช้ที่ “การทำงานแห่งเปิดให้กู้ทรัพย์สินระหว่างบุคคลจรดคน” หรือ “Peer-to-Peer Lending Platform” (P2P Lending) ซึ่งทำเอาเรายั่วดุต่อจากนี้ พอธุรกิจนี้เข้าที่แหลมทอง จะก่อกำเนิดกระไรขึ้นไปมั่ง ถ้าหากพูดถึงข้อได้เปรียบไม่ก็จุดอ่อนเนื่องด้วยการเปิดช่องแจกธุรกิจ P2P Lending สามารถประกอบธุรกิจในประเทศแหลมทองได้มาตรงนั้น สามารถมองคว้าที่มากความเห็นแม้มองในแง่ดีก็ถือเอาว่า การเปิดกว้างให้บริษัท Startup ด้านเทคโนโลยีการเงิน ไม่ก็ FinTech Startup สมรรถประกอบธุรกิจครรลองนวชาตๆ เพื่อจะโจทย์ที่ชีวิตประจำวันสรรพสิ่งมนุษย์ได้มาเติบโต ซึ่งจำต้องตกลงตวาดชาวไทยผลรวมไม่น้อยยังเปล่าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ยืมค่าตอบแทนตกต่ำสิ่งของภาครัฐบาล หรือว่าแม้แต่แหล่งเงินกู้สิ่งของเอกชนได้ ดังที่เช่นกันเหตุแหล่ชนิด อาทิ งานพิมพ์ไม่ครบ ค่าตอบแทนรายเดือนอีกทั้งไม่ถึงเกณฑ์แห่งหนขีดคั่น อายุไม่จรด เป็นอาทิ แต่ถ้าหากกล่าวถึงข้อด้อยไม่ก็เรื่องกลุ้มที่เกิดขึ้นไป จำเป็นต้องบอกก่อนตวาดการทำงานดังกล่าวเป็นที่นิยมในประเทศเมืองจีนลงมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว ก็เราจักได้ข่าวประกาศไม่ก็เสนอสิ่งต้นตอขึ้นไป เพราะปัญหาโย่งๆ ต้นตอขึ้นไปขึ้นไปภายหลังถกให้บริการ P2P Lending ตกว่า ผลสำรวจจากธนาคารเพื่อจะการลงทุนของประเทศจีน (CICC) เจาะจงดุ พอชันษาก่อนจอมดำรงคั่งค้างสรรพสิ่งสินเชื่อเพื่อจะการเสพ (Consumer Loans) สิ่งของเมืองจีนเติบโตจด 40 ร้อยละ ทำเอาปี 2560 ที่ผ่านมาค่าหนี้สินครอบครัวสิ่งของจีนดำเกิงจด 33 ล้านโล้นยอม นึกดูดำรงฐานะ 40 เปอร์เซ็นต์สรรพสิ่ง GDP รายงานจาก Financial Times พินิจพิจารณาตวาดเศรษฐกิจสิ่งของเมืองจีนแห่งหนก้าวหน้าว่องไว มีผลจ่ายคนรุ่นใหม่แห่งพยายามหนีจากวิถีชีวิตต้นร่างเดิมสิ่งของคนจีนรุ่นเก่า ด้วยการยืมเงินมาใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยคว้าสะดวกยิ่งขึ้น หมายรวมเข้าถึงอู่เงินกู้ปะปนกัน เปิดรับให้ลูก ๆ สามารถยืมรายได้หวานคอแร้งขึ้นไป ต่างแบงค์ต้นร่างแต่เดิมแห่งหนหมายมั่นตาของานพิมพ์ครอบครองมากมาย โดยเฉพาะตอน 5 ชันษาที่ผ่านมาแห่งหนประกอบด้วยช่องทางกู้เงินออนไลน์แห่งทวีจังนับ 100 ราย เอ็ดที่กระบวนการดึงที่หนุ่มสาวจีนการกำหนด ตกว่า P2P Lending หรือว่า กบิลสินเชื่อออนไลน์ ได้ผลวางธุระดึงตรงๆระหว่างผู้เอากลับคืนกับผู้ให้กู้ โดยไม่ต้องมีแบงค์เป็นตัวกลางๆ ผู้ให้บริการอาศัยงานพินิจพิจารณาข่าวสารจากความประพฤติต่าง ๆ ของผู้ซื้อ งานจับจ่ายใช้สอย การไม่อ้อมค้อมต่อเวลาแห่งการชำระหนี้ เป็นต้น หามิได้การช่างเอากลับคืนขนมจากหลักทรัพย์ค้ำชูเสมอเหมือนครรลองเดิม “กระแทกขยี้เรียกร้องกลเม็ดเด็ดพราย” บริษัทการศึกษาค้นคว้าที่จีนอีกต่างหากระบุเพราะว่า ปีที่แล้วจอมสินเชื่อคงทนคั่งค้างณ P2P Lending ประกอบด้วยสิงสู่ประมาณการ 1.2 ล้านกล้อนยอม นับว่ามีงานพองตัวอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่อัตราดอกเบี้ยหารดำเกิงจด 37 เปอร์เซ็นต์กับอีกต่างหากมีคุณค่าปรับทวีคูณแม้จับจ่ายพ้นสมัยกำหนด ซึ่งนี่คือข้อเสียขนมจากงานถกธุรกิจดังที่กล่าวมาแล้วที่ประเทศจีน ถ้าหากหลังจากนี้ที่ไทยไม่มีการควบคุมสอดส่องที่ละเอียดเมื่อ คงจะทำให้เกิดทิวภาพต้นฉบับแห่งจีนคว้า ผู้กำกับหนังดูแลการทำงานที่แหลมทองทั้ง ธปท. กค กับอื่นๆ แห่งข้องเกี่ยว แล้วจึงไม่คงเลินเล่อคว้าเลยถัดจากนี้ ซึ่งชะงัดอนต่อจากนี้ ดีฉันไม่คงกันทางน้ำของความเปลี่ยนแปลงคว้า ถ้าใครอยากทดลองใช้ P2P Lending แน่ๆ อย่าลืมตรวจสอบเพราะว่า บริการนั้นไปสู่การเพิ่มสอบ Regulatory Sandbox ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย แล้วหรือยัง มีน่าจะเป็นการป้องกันตนเองแห่งดีสุดขอบณ เวลานี้ NewsJVCMFECjfinJ VenturesP2P lending