สองหุ้นส่วนโบราณแห่งหนครอบครองตำนานกล้องกับฟิล์มถ่ายรูป ชนิด Kodak แห่งหนสหรัฐฯ ด้วยกัน Fujifilm จากประเทศญี่ปุ่น แตกต่างจำต้องพบปะกับดักคลื่นดิจิทัลแห่งหนเข้าซัดสาดดารณีลำใหญ่แห่งหนแสนแข็งแรงในช่วงปี 2003 กระเป๋าแห้งแทบล่ม ภายหลังที่คลุกคลานด้วยกันควานหาแนวทางเปลี่ยนแปลงตนเอง สองกงสีอสูรหวนกลับมีวาระสุดท้ายแห่งหนแตกต่างห้าม เพราะยุคปัจจุบัน Fujifilm ยังคงก้าวหน้า ด้วยกันค้ากำไรอย่างต่อเนื่อง ขนมจากการปรับตัวสู่ธุรกิจประทิ่นด้วยกัน Healthcare แห่งทำเงินให้หุ้นส่วนกระทั่ง 3.4 โพกหัวโล้นดอลลาร์ประกบพรรษา ขณะที่ Kodak ไม่ผิดฟ้องหมดตูดจรพอพรรษา 2012 ภายหลังขาดทุนอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดตรงเวลากว่า 3 ปี ซึ่งทำให้ต้องออกจากงานดั้งเดิมแห่งหนทำมาอย่างช้านาน ก่อนที่จะห้อร่วมนวชาตเป็นกงสีคล่องตัวขนาดย่อมแห่งพรรษา 2013 กงสีที่กาลครั้งหนึ่งชินดำรงฐานะกงสีแห่งทรงพลังตกขอบรายเอ็ดสิ่งของแหล่งหล้า ลงมาวันนี้บริษัทหวนกลับมีมูลคุณประโยชน์ณตลาดด้อย 1 โพกกล้อนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ดอลลาร์สหรัฐ จากนั้นกระไรถือเอาว่าสิ่งกลมๆเปลี่ยนสำคัญที่เป็นเหตุให้บริษัทชไมลงเอยเปล่าเหมือนกัน? Fujifilm กับการกลับวิกฤตแยกออกเป็นโอกาสอันควร บริษัท Fujifilm ก่อตั้งขึ้นไปในพรรษา 1934 เพราะมีสำนักงานใหญ่สิงสู่ในประเทศประเทศญี่ปุ่น ด้วยกันครองตลาดฟิล์มถ่ายภาพในประเทศญี่ปุ่นอยู่มากมายทศวรรษ ก่อนที่จะพบกับคลื่นดิจิทัลลูกแต่ต้นในช่วงพรรษา 1980 ในตอนนั้น อีกทั้งเปล่าเบารู้จดความกระทบกระเทือนยิ่งนักหลาย ตามที่อีกต่างหากส่งผลแค่งานต้นร่าง B2B แม้ว่าจดดังนั้น Shigetaka Komori CEO สรรพสิ่งบริษัทก็ได้ปลงใจที่จะนำกงสีไปสู่ความดำรงฐานะดิจิทัล เขากล่าวว่า “สมมติว่าฉันเปล่าก่อ ก็จะประกอบด้วยคนอื่นๆสร้างอยู่ดี ซึ่งโน่นเป็นต้นเหตุแห่งหนดีฉันปลงใจเข้าสู่ท้องตลาดดิจิทัล” Shigetaka Komori, CEO of Fujifimต่อจากนั้น Fujifilm ตกลงปฏิบัติตามที่เอ่ยปาก เพราะว่าออกกล้องดิจิทัลรุ่นแต่ต้น The Fujix DS-1P ณชันษา 1988 (ภายหลังที่ปรปักษ์ชนิด Kodak คว้าตัดหน้าออกลูกกล้องยาสูบดิจิทัลจรก่อนจากนั้นแห่งชันษา 1975) แม้ว่าจดฉันนั้น จนกระทั่งจดพรรษา 2001 เงินรายได้หลัก 2 ณ 3 สรรพสิ่งหุ้นส่วน ก็ยังคงมาจากธุรกิจฟิล์มถ่ายรูปอยู่ดี ระยะเวลาผ่านไปเพียงเอ็ดพรรษา เงินรายได้หลักที่ว่าก็ไม่ผิดระลอกคลื่นดิจิทัลผสมกลมกลืนหายจรในกะพริบตาในพรรษา 2003 เป็นพิเศษจากการเข้าของ smart phone และ social media อีกทั้งการถ่ายภาพดิจิทัลตรงนั้น ถูกกระทั่ง สะดวกกระทั่ง และเร็วกว่าจัง แล้วจึงทำเอาพฤติกรรมผู้บริโภคแปรไปอย่างสิ้นเชิง แค่ภายในระยะครึ่งพรรษาจำเดิม เงินรายได้จากงานจำหน่ายฟิล์มถ่ายรูปลดลงกว่า 1 ณ 3 ซึ่งนั่นนำไปสู่การตัดสินใจปรับเปลี่ยนครั้งประเสริฐสิ่งของ Fujifilm เพราะลดทุนยอมกว่า 5 โพกล้านดอลลาร์ด้วยกันลดเจ้าหน้าที่แห่งร.ง.ยอมจด 5,000 มนุช จาก Comfort Zone จรไปสู่ธุรกิจแห่งอุตสาหกรรมนวชาตปีกเครื่องสำอางด้วยกันสุขภาพ เป็นการปลงใจแห่งคนภายนอกเหล่จากนั้นจักจำเป็นต้องย่นคิ้ว แหวการงานฟิล์มจักประกอบด้วยเรื่องพาดพิงกับดักธุรกิจความสวยงามคว้ายังไง หัวหน้า Komori เล็งเห็นความเป็นไปได้ในท้องตลาดเครื่องหอม โดย Fujifilm ได้มาใช้เทคโนโลยีแห่งตัวเองประกอบด้วยและกลเม็ดกระยาเลย ที่ใช้รักษาสถานภาพสีบนแผ่นฟิล์มถ่ายรูป ลงมาทำให้เรียบใช้กับผลิตผลเครื่องสำอางผลัดเปลี่ยน เป็นพิเศษเทคโนโลยี collagen แห่งหนสนับสนุนปกป้องสภาพความชื้น กับความอ่อนเยาว์สิ่งของวรรณะคว้า Fujifilm ได้มาคลอดประทิ่นภายใต้ชื่อเสียงเรียงนาม Astalift ณปี 2007 และวางตลาดณตลาดจีน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น หมายรวมประเทศในยุโรป ซึ่งช่วงปัจจุบันทำมาหากินแยกออกกงสีกระทั่ง 3.4 พันล้านดอลลาร์ดามปี ไม่ใช่เช่นนั้นแค่พ่างท้องตลาดประทิ่นแค่นั้น Fujifilm อีกต่างหากจับเทคโนโลยี Digital Camera Tech มาใช้กับเครื่องมือทางการแพทย์ ด้วยการบันทึกภาพเพื่อที่จะวินิจฉัยโรค กับความก้าวหน้ากำเนิดยามะเร็ง ด้วยกันความเจ็บป่วยความจำเสื่อม ยุคปัจจุบัน ยอดจำหน่ายฟิล์มถ่ายภาพแห่งหนคุ้นชินเอากำไรให้บริษัทกระทั่ง 70% ลดน้อยลงเหลือหลอต่ำกว่า 1% แต่ว่าทำไมถึงยังคงเกิดค้าขายอยู่? Komori กล่าวว่า นกเขายังอยากจะรักษาธรรมเนียมปฏิบัติการถ่ายภาพแยกออกคงอยู่ต่อไป “มนุชไม่สมรรถอยู่คว้าโดยปราศจากวัฒนธรรมการบันทึกภาพ แม้ว่าดีฉันจะไม่ได้ทำเงินขนมจากมันอีกแล้ว แต่ว่าฉันจักอีกทั้งเกิดฟิล์มเช็ดถัดไปไม่รีบร้อน ไม่ว่าจักก่อกำเนิดกระไรขึ้น ฉันจะไม่มีวันหันหลังแยกออกกับดักการโยกย้ายทิวภาพ” ปฏิเสธไม่ได้เกี่ยวกับโลกทัศน์สรรพสิ่ง Komori คว้าช่วยช่วยเหลือ Fujifilm เอาไว้ ด้วยกันเป็นประโยชน์ทรัพย์สมบัติที่ศัตรูประการ Kodak ปราศจากแห่งเพศชายจัดการ Fujifilm ปรับพฤติกรรมขนมจากบริษัทแห่งหนเข้มเเข็งข้างการถ่ายภาพ มายังองค์กรวิจัยทางวิทยาศาสตร์ประการเต็มกำลัง ซึ่งก่อกำเนิดจากการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัล และ การค้นคว้ากับพัฒนาในหน่วยงานสิ่งของตนเองแต่แรก ทำเอา Fujifim ไปประกบณธุรกิจอื่นคว้า ขณะที่ Kodak เลือกเฟ้นทำให้เสมอผลิตภัณฑ์สรรพสิ่งตน เช่นกันงานเข้าไปจับจ่ายบริษัทอื่นและการหา partnerships ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ Kodak ละเลยการพัฒนาเทคโนโลยีสิ่งของตัวเองขึ้นไปลงมา กับยึดติดสิงสู่กับงานฟิล์มและกล้องยาสูบสิงสู่เป็นต้นว่าเก่าก่อน กระเป๋าแห้งแห่งท้ายที่สุดก็ตกดุรงค์เสียชีวิต เพราะว่าปรับนิสัยติดสอยห้อยตามพื้นโลกทิจิทัลไม่ทัน อ่านข้อเขียนเกี่ยว ความผิดพลาดของ Kodak เต็มๆ ถึงที่เหมาะข้อเขียน ‘หายนะสรรพสิ่ง Kodak ไม่ไหวดำรงฐานะก็เพราะว่าสาวก้าวไม่ทันเทคโนโลยี แม้ว่าก่อกำเนิดจาก…’ แต่งแก่นสารจาก Channel Newsasia, Harvard Business School, Leaderonomics หลักแหล่งของทิวภาพ Channel Newsasia Tech & BizCorp InnovJapankodakFujifilmHardwareCorporate Innovation
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2019/12/สามย่าน-มิตรทาวน์-1.jpg
