แกะบทเรียนธนาคารฝ่ามือระลอกคลื่น FinTech อย่างไร? จรัมพร โชติกมั่นคง มีวิสัชนา

ภาคกิจธุระแบงค์เป็นเยี่ยมณการงานแห่งหนมีกรรมสิทธิ์ผลกระทบกระเทือนขนมจากความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีแห่งหนเข้ามาโดยด่วนจังแรงกล้าภาคกิจธุระหนึ่ง มัศยาพรตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการคนใหม่ที่มาขนมจากภาคอุตสาหกรรมอื่น จึงก่อเกิดกระทู้ถามเลิศว่าแบงค์รายใหญ่จักปรับนิสัยยังไงเพื่อกำราบกับเหตุการณ์นี้ ตลอดในทางการวางแผนความพร้อมสรรพสิ่งเจ้าหน้าที่, งานทำให้เสมอโมเดลงานยังไงเพื่อจะสร้างโซลูชั่นนวชาต ๆ แบ่งออกมีขึ้นได้จริงๆ, งานเตรียมการความพร้อมกำราบกับดักการเปลี่ยนแปลงสรรพสิ่ง Digital Transformation และการพา Integrated Technology ลงมาใช้คืนยังไงแจกซูบปัญหาความต้องการสรรพสิ่งผู้ใช้ได้รวดเร็วแรงกล้า ในที่บทความตรงนี้ดีฉันจักนำพาไปพูดคุยกับดักตัวจริงที่คร่ำหวอดทั้งในที่แวดวงไอที ด้วยกันงานการคลังอย่าง จากไปัมพร โชติกมั่นคง กรรมาธิการสั่งการ แบงค์เมืองหลวงเทวดา ผู้มีประสบการณ์ตรงๆณการพัฒนาสิ่งใหม่แจกกับหน่วยงานขนาดใหญ่ อดีตกรรมาธิการผู้อำนวยการโค่ง กงสี การร่อนแหลมทอง ขีดคั่น (มวลชน) กับ ผู้บัญชาตลาดค้าหุ้นแห่งหนแหลมทอง วิวัฒนาการสิ่งของพื้นโลกกิจธุระแบงค์กับเทคโนโลยี สมรรถแบ่งวิวัฒนาการได้เป็น 3 ตอน ช่วงแรก ในที่อดีตการงานธนาคารพาณิชย์ไม่ไหวมีบุคลากรที่ว่าการในที่ฝ่ายคอมพิวเตอร์เต็มที่เท่าช่วงปัจจุบัน จนแทบจะถือเอาคนได้ ในขณะเดียวกันจำนวนรวมกงสีผู้ให้บริการข้างเทคโนโลยีหรือไม่ก็ Vendor ก็ประกอบด้วยสิงสู่น้อย จำนวนรวมกระบิลซอฟท์แวร์ก็ประกอบด้วยบางตา จักปฏิรูปอะไรที่ก็จำต้องมา Customize แบ่งออกสอดคล้องกับแต่ละความต้องการสรรพสิ่งแต่ละธนาคาร ในแต่ละแผนการ ชิ้นต้นตอขึ้นตกว่าเป็นเหตุให้ความเร็วณการพัฒนาบริการรุดหน้าได้มาเลยกำหนดเต็มที่ ตอนที่ 2 ไม่มีเงินพอเข้าสู่ตอนชันษา 2000 (พุทธศก 2543) ริเริ่มมีผลรวมโซลูชั่นมากขึ้น ในที่แต่ละโซลูชั่นก็เริ่มประกอบด้วยหลายหุ้นส่วนแห่งหนทำได้ ตัวอย่างเช่นหมู่สิ่งของ Cash management (บริการจ่ายเงินสด) สถานที่จำเป็นจะต้องประกบผสานกับดักหมู่ Core Banking (กระบิลงานรากฐานสรรพสิ่งแบงค์ทั้งปวง) ซึ่งอาจประกอบด้วยผู้ให้บริการพัฒนากระบิลผลรวม 5-6 ราย ระยะที่ 3 ตอนนี้ในที่ทุกสิ่งกลมๆสามารถก่อเกิดดำรงฐานะของใหม่ใหม่ ๆ ก่อสร้าง Process นวชาตได้พ้น ยกตัวอย่างเช่น ความสรรพสิ่งการไต่สวนตัว (Authentication) เก่าก่อนมีการใช้คืน Password มีการใช้ Token เสียแต่ว่าตอนนี้ประกอบด้วยการสืบสวนตัวเช่นกัน Biometric ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา เส้นเลือดในฝ่าเท้า เป็นต้น แต่ละโซลูชั่นมี Vendor อุดมประกอบด้วยดำรงฐานะสอดหุ้นส่วน ดังนั้นฝ่ายกิจธุระสิ่งของแบงค์จำต้องริเริ่มเข้าใจต่อจากนั้นตวาดโซลูชั่นไหนแห่งหนสมควรกับดักการพาลงมาเจริญบริการแจกแก่ผู้บริโภคเต็มที่แรงกล้า ด้วยกันบริการนวชาตหนึ่งบริการจำต้องใช้โซลูชั่นเหล่านี้นับสิบ เรียกหาได้มาว่ามีทางเลือกจำเริญ โดยจำเป็นจะต้องสามารถทำกันได้ตามความมุ่งมาดของผู้บริโภคไม่ว่าจักดำรงฐานะธุรกรรมฉบับร่างไรก็ตาม “ทิศงานสรรพสิ่งธนาคารก็จำต้องเข้าใจตวาดตอนนี้เทคโนโลยีเป็นเช่นไร คู่อริเป็นเช่นไร และจำเป็นจะต้องรู้เรื่อง FinTech เช่นกัน เพราะว่าชายหาดเทคโนโลยีสารสนเทศเองก็จำเป็นจะต้องปฏิรูปหมู่โครงสร้างพื้นฐานแจกดามประสานกับ FinTech คว้าโดยไม่ยากพร้อมด้วย โน่นคือกิจธุระก็จำต้องมีงานเกี่ยวโยงห้ามเช่นกัน (Interoperability)” การตระเตรียมความพร้อมสิ่งของทางธนาคารเพื่อจะรับมือ FinTech ชนิดเริ่มแรกเลย จำเป็นต้องเริ่มขนมจากงานสร้างการรู้สึกแจ้งแจกกับทิศงานของแบงค์แจกมองเห็นจดความสำคัญสิ่งของ FinTech ด้วยกันจำเป็นต้องเข้าใจปัญหาแหวตัวเองมีความมุ่งมาดอะไรเพื่อจักได้มาคัดโซลูชั่นของ FinTech ได้มาอย่างเหมาะควร ทั้งๆ ที่มุขหน่วยงานเทคโนโลยีเองก็จำต้องวางแผนความพร้อมข้าง Infrastructure อาทิเช่น การพัฒนา API ขึ้นไปมาแจกสามารถเชื่อมต่อกับดักเล็กพพลิเคชั่ฟ้ายนอกได้มาโดยเร็ว เกิดดำรงฐานะสิ่งใหม่ใหม่ ๆ หากประกอบด้วยความเปลี่ยนแปลงกระไรก็สมรรถปรับเปลี่ยนได้อย่างคล่องตัว (Flexible) ยุคนี้ตกว่ายุคสถานที่กิจธุระรวมหัว (Interoperability) นี่รวมความว่าหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดสิ่งใหม่นวชาต ๆ ดิฉันประกอบด้วยแผนการ Bangkok Bank InnoHub แผนการหมักเพาะ Startup สรรพสิ่งมุขธนาคาร ที่มีการคัดเลือก FinTech Startup 128 ราย ขนมจาก 28 ด้าวทั่วโลกจนหลงเหลือ Finalist 8 ราย ที่ต่างปฏิรูป FinTech ณต่างๆนาๆปีก หุ้นส่วนกลุ่มนี้ได้โอกาสมีกรรมสิทธิ์ทุนทรัพย์ขนมจากแบงค์ ตลอดจนเข้าไปยอมรับการฝึกอบรมกับปฏิรูปศักยภาพจากผู้ให้คำปรึกษา (Mentor) กับอีกทั้งมีกรรมสิทธิ์ความจัดเจนขนมจากกิจธุระร่วมกับพวกหุ้นส่วนในเครือแบงค์เมืองใหญ่เทพดาเช่นกัน ช่วงปัจจุบันมัจฉาวัตบาป ด้วยกันเทคโนโลยีนวชาตเกิดขึ้นอุดม ไม่ว่าจะดำรงฐานะ Digital Channels Social Chat ไม่ก็งานครรลอง Collaboration นวชาต ๆ สตาร์ถักัพมีงานก่อสร้างโซลูชั่นอุดม เพื่อจะสนองตอบความมุ่งมาดสรรพสิ่งผู้บริโภคที่ผิดแผกกัน เพื่อแก้ปัญหาเค้าเดิมขึ้นณโลกยุคปัจจุบันได้ว่องไวกระทั่งธนาคารจัง สถาบันการเงินจึงจำเป็นจะต้องจับตามองการงาน Disruptive เหล่านี้ ทว่าไม่ได้เหล่ณสถานภาพศัตรู แต่ว่ามองหาแนวร่วมแห่งหนสมรรถอธิบายโซลูชั่นที่จะซูบปัญหา และ Integrate กับดักระเบียบให้บริการสิ่งของธนาคาร ลุ้นแบ่งออกแบงค์ส่งให้ของซื้อของขายด้วยกันบริการที่มัจฉาวัตบาป แบ่งออกกับดักผู้บริโภคสรรพสิ่งแบงค์ได้มาว่องไว และมุ่งเน้นการเพิ่มขึ้นประสบกาในที่์เพื่อก่อสร้างคุณค่าแจกกับผู้ใช้เป็นสำคัญขึ้นไป ฉะนั้นแผนการ Bangkok Bank InnoHub แล้วก็ทำให้มากมาย ๆ ก้ำของหมู่แบงค์เมืองหลวงเทพยดาได้มาลงมือคลุกคลีกับ FinTech กับคว้าทำความเข้าใจสิ่งใหม่ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นจังหวะในการสร้างโมเดลกิจธุระ เพื่อจะซูบปัญหา พัฒนา และจรรโลงการงานแจกกับองค์กร ขณะเดียวกัน FinTech เองก็จักได้ศึกษาโดยตรงว่าชิ้นแห่งหนพลังปฏิรูปสิงสู่นั้น มีจุดดีตรงไหน หรือว่าน่าจะปรับคลี่คลายซีกใด เช่นไร เพราะสามารถขอเกี่ยวคำแนะนำกับผู้เชี่ยวชาญ และองค์การการงานของธนาคารโดยตรง ด้วยกันปฏิรูปกระเป๋าแห้งสมรรถออกมาดำรงฐานะโซลูชั่นได้มา “ยิ่งไปกว่านี้อีกต่างหากจำต้องรู้ถึงข้อได้เปรียบ-ข้อบกพร่อง เพื่อให้ของใหม่หัวนอนปลายตีนจาก FinTech สามารถนำมาใช้กิจธุระแน่ๆได้ ตอบโจทย์ลูกค้าเป็นหลักแสนหลักเขตเลี่ยนได้” แบบ Banking Innovation แห่งหนเด่น สิงสู่ที่ว่าดีฉันความแข็งแรงแก้ปัญหา หรือไม่ก็ความแข็งแรงปฏิสังขรณ์ขั้นตอนใดแจกดีขึ้น มีประสิทธิภาพขึ้น หนึ่งในที่กรณีศึกษาที่เทคโนโลยีเข้าลุ้นเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยกันถือเป็นนวัตกรรมนวชาต เป็นต้นว่า พอต้นปีที่ผ่านมา ทางธนาคารได้เปลี่ยนแปลงการทำธุรกรรม Letter of Credit หรือไม่ก็ L/C ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย – ซึ่งเป็นครั้งแรกเพื่อทั้งสองประเทศ เพราะแบงค์กรุงเทพดา ได้มาสมรู้ร่วมคิดกับดักกองกลาง จีภาษาซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ ขีดคั่น (GCM) กงสีในหมู่กองกลาง พีทีหน โกลบอล เคมิคอล กำหนด (หมู่ชน) หรือไม่ก็ PTTGC ซึ่งนับได้มาว่าเป็นความเป็นผลณการพัฒนาธุรกรรมเชิงพาณิชย์ข้ามชาติแหลมทองและอินโดนีเซีย บนบานศาลกล่าว R3’s CORDA Platform เพราะว่าใช้คืน Distributed Ledger Technology (DLT) หรือไม่ก็ Enterprise Blockchain โดยแบงค์กรุงเทพดาเป็นแบงค์ประเทศไทยแห่งหนจำเดิม แห่งหนคว้าร่วมโครงการ Voltron ซึ่งการพัฒนาคราวนี้คว้าเอาใจช่วยลดกาลเวลางานทำ เนื่องจากการพาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ตรงนั้น ทำให้ทุกฝ่ายสถานที่ข้องแวะสมรรถสืบสวน กับลงมือรวมหัวคว้า ไม่ว่าจักดำรงฐานะผู้บริโภค ญิบจำหน่าย หรือไม่ก็ธนาคาร สมรรถเหลือบเห็นข่าวสาร และงานพิมพ์สถานที่จับไปขึ้นอยู่บนบานหมู่ Blockchain ได้ต้นร่างเรียลไทม์ ด้วยกันเห็นได้มาพร้อมกัน สนทนาสมรู้ร่วมคิด แล้วก็เป็นเหตุให้ตัดทอนระยะเวลาขนมจากดั้งเดิม สิบ กลางวัน แยกออกเหลือเพียง 1 วัน จัดยอดเยี่ยมในสาวเท้าสำคัญสิ่งของธนาคารณการรัฐประหารรูปแบบงานให้บริการตลอดขั้นตอนเพื่อกิจธุระการขายระหว่างประเทศ ด้วยกันลดงานใช้สิ่งพิมพ์มากกว่าเศษหนึ่งส่วนสอง ยิ่งไปกว่านี้อีกต่างหากทำให้ธุรกรรมประกอบด้วยความโปร่งสบายใส สืบสวนได้ มีความปลอดภัยสูง ช่วยแจกผู้บริโภคสมรรถจัดการว่าการธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ด้วยกันจากความร่วมมือกับดักแบงค์ฉลาดข้างการค้าระหว่างชาติ ก็อุดมจักทำให้ลูกค้าสรรพสิ่งแบงค์เมืองหลวงเทวดาสมรรถก่อธุรกรรมอย่างเร็ว และมั่นคงกับสองจำหน่ายได้มาทั่วโลก วิพากษ์วิจารณ์เช่นไรกับ e-KYC (หมู่การละครด้วยกันประกันตัวตนทางไฟฟ้า) สถานที่กำลังจะลงมา กับช่วยเอื้อประโยชน์อายุมากการงานธนาคารยังไง นับว่าเป็นของใหม่ที่จะสับเปลี่ยนรูปร่างวงการเลยเทียว ไม่ใช่เท่ากับดักธนาคาร เสียแต่ว่ายังเป็นคุณกับดักผู้ใช้พร้อมด้วย โดยเฉพาะความความชำนาญชดใช้บริการสถานที่ทุเลา เพราะว่าแบงค์เมืองใหญ่เทพดากำลังวังชาปฏิรูปแผน Facial Recognition และ eKYC ซึ่งเทคโนโลยีกลุ่มนี้จักลุ้นคลายประสิทธิภาพในที่งานให้บริการปีก Digital Banking ของธนาคาร แยกออกกับดักลูกค้ารายย่อย ขนมจากเก่าแก่ผู้บริโภคจำเป็นต้องเจียรเปิดบัญชีที่สำนักงานสาขาสิ่งของธนาคารโดยตรงเพียงนั้น ทว่าเมื่อมีระบบระเบียบ e-KYC เข้า ผู้ใช้สมรรถสร้างผ่านออนไลน์ได้เลย ไม่ต้องมาแห่งหนสำนักงานสาขาด้วยตัวเอง ทำให้เกิดความรวดเร็ว กับสบายยิ่งขึ้น เป็นต้น ซีก National Digital ID (NDID) หากใครชินเผยตัวตนกับที่ไหนมาหลังจากนั้น ก็เข้าลุ้นแจกธนาคาร/ สถาบันการเงินสถานที่อื่นสมรรถเข้ามาสืบสวนประกาศได้ สรรพสิ่งจะว่องไวขึ้นไป เจ้าหน้าที่ของธนาคารสมรรถปรับตัวกับดักนวัตกรรมที่ปรับเปลี่ยนโดยเร็วได้หรือเปล่า โครงการ Bangkok Bank InnoHub ช่วยได้ขนานใหญ่แห่งหนทำเอาผู้บริหาร กับบุคลากรแบงค์ รู้ ด้วยกันเข้าถึงนวัตกรรมนวชาต สถานที่สำคัญเพื่อให้รู้จดเหตุจำเป็นในงานปรับขั้นตอนทำใหม่ เพราะของใหม่เปลี่ยนแปลงเจียรโดยเร็ว ในขณะเดียวกันลูกค้าเองก็ต้องการสิ่งใหม่ ทำเอาฉันก็จำต้องก่อกระไรแยกออกแจ้นขึ้น จำเป็นต้องสามารถนำเทคโนโลยีมาชดใช้ณแบงค์แจกแจ้นขึ้นด้วย เพราะว่าถ้าไม่ได้เริ่มใช้แน่นอนก็จักโง่ และพอริเริ่มเข้ามาแล้วจึงจำเป็นต้องพิสูจน์ใช้ประโยชน์แน่ๆ ๆ จักคว้าแจ้งว่าใช้ได้หรือไม่คว้า ประกอบด้วยหลักการอย่างไรแห่งหนเอาใจช่วยแบ่งออกบุคลากรปรับนิสัยคว้า ฉันเตรียมการความพร้อมแยกออกกับดักเจ้าหน้าที่ปรับเปลี่ยน Mindset เพื่อครบครันสารภาพการเปลี่ยนแปลงสิ่งของ Digital Transformation และสร้างเสริมขบวนการดำเนินการครรลองใหม่ ดำเนินการร่วมกับ FinTech ฉลาด ที่ได้รับการคัดเลือกมารายปีผ่านแผนการ Bangkok Bank InnoHub ผ่านการสรรหาเจ้าหน้าที่ งานฝึกหัด ด้วยกันการศึกษาขนมจากวัตรงานแน่ๆ การสนับสนุนแยกออกมี Knowledge Sharing เป็นเรื่องประธานเต็มที่ในที่องค์กร มี Best Practice แบ่งออกมองดูว่าใครก่ออะไร อย่างไร แยกออกคนแต่ละฝ่าย สามารถทำความเข้าใจได้ทั่วถึงกัน หลายองค์การเองก็จำต้องปรับนิสัยแยกออกแจ้นขึ้นไป บุคลากรน่าจะจำเป็นต้องทำบอก หรือไม่ก็มี Dashboard ที่สมรรถชี้แจงประกาศประธานแบ่งออกกับผู้บริหารคว้าเอง มิใช่จำต้องรอคอยแบ่งออกองค์การส่วนกลางดำเนินการ ไม่ก็ให้กำเนิดบอกแจกทั่ว สมมติว่าอีกทั้งเปล่าคุ้นเคยกับ Tool ก็จำต้องประกอบด้วยงานแจ๋ Knowledge Sharing แยกออกเจ้าหน้าที่สมรรถเรียนรู้กับการใช้ Tools นวชาต ๆ ได้ พอให้ดำเนินการได้ชนิดครบถ้วนพลัง เพราะว่าถ้าประกอบด้วยเครื่องอุปกรณ์จากนั้นเปล่าชดใช้ กิจธุระก็เลยกำหนดตามเดิม ดังนี้จากไปัมพรได้มาทิ้งท้ายจดแหล่งหล้าสถานที่ความจริงสิ่งของวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีในวงการงานตวาด “Solution ดำรงฐานะอันชั่วคราว เพราะว่าดิฉันอีกทั้งจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยน Solution แจกคว้าทันกับแนวทางของเทคโนโลยีที่ผลัดกันสิงสู่ทุกเมื่อ เสียแต่ว่าชิ้นสถานที่ยืดยาวกระทั่งรวมความว่า Need หรือว่าความมุ่งมาดปรารถนาของผู้บริโภค ด้วยกันโน่นคือว่างานสถานที่ดีฉันแยกออกเน้น ในการก่อสร้างคุณค่าแจกกับผู้ใช้นั่นเอง” Corp Innove-KYCFinTechFeatured ArticleDigital Transformation