เท้าหน้าประเทศสิงคโปร์ เล่า 3 กรณี จัดการ COVID-19 ‘การแพทย์ เศรษฐกิจ จิตวิทยา’

หัวหน้ากลี เซียนไทรทอง ผู้นำขนมจากแดนสิงคโปร์เล่าทำให้รุ่งเรืองขึ้นเกี่ยวกับมาตรการการกันงานระบาดสิ่งของเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งแบ่งครอบครอง 3 ประเด็นก็ลงความว่าการแพทย์ เศรษฐกิจ ด้วยกันจิตวิทยา ภายหลังฮู หรือ WHO ได้มาประกาศยกระดับเชื้อโรค COVID-19 เสร็จกระจัดกระจายทั่วโลก (Pandemic) เมื่อจำนวนผู้ติดโรคทั่วโลกตรงนั้นริเริ่มสูงขึ้น และเข้าสู่ภาวการณ์งานระบาดทั่วโลกหลังจากนั้น ติดสอยห้อยตามวจีคาดการณ์สิ่งของประเทศสิงคโปร์นั้น เชื้อไวรัส COVID-19 นั้นจักยังคงระบาดเรื่อย ๆ เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ไม่ก็ยิ่งกว่านั้น หัวหน้ากลียังระบุส่งเสริมอีกดุ แม้ว่าสิงคโปร์ตรงนั้นจะเปล่าดับแดนเหมือนเกาหลีใต้ เมืองจีน หรืออิตาลี อันที่รัฐบาลสิงคโปร์ตรงนั้นจะสร้างลงความว่าการวางแผนล่วงหน้าณงานคลอดมาตรการแห่งหนกวดขันงอกงาม งานพิสูจน์ใช้งานแน่ๆ และเตรียมการความพร้อมสรรพสิ่งกลางเมืองประเทศสิงคโปร์สมมติว่าก่อกำเนิดสถานการณ์จริงๆการแพทย์แม้จำนวนผู้ติดโรคตรงนั้นพุ่งขึ้นสูงเรื่อย ๆ มุขรัฐบาลตรงนั้นไม่สมรรถที่จะนำตัวผู้ติดโรคทุกรายจรอีกทั้งคลินิก และแบ่งทั้งหมดจากห้ามคว้า เพราะผู้ติดโรค COVID-19 จำนวนมากจด 80% นั้นมีการวางท่าเปล่าแรง ซีกผู้ป่วยแห่งหนมีอิริยาบถรุนแรงส่วนมากจักอยู่ในพวกคนชรา หรือว่าประกอบด้วยทีท่าอื่นสิงสู่จากนั้น ดังนี้ผู้ติดโรคแห่งประกอบด้วยอิริยาบถหนักหน่วงเท่านั้นที่จะถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ด้านกลุ่มแห่งหนการวางท่าเปล่ารุนแรงนั้นแยกออกกักกันเนื้อตัวอยู่ที่คฤหาสน์ กับแยกตัวเองจากผู้อื่น ซึ่งงานชดใช้วิธีนี้จักสนับสนุนให้การทำสรรพสิ่งมุขโรงหมอ ด้วยกันหน่วยงานแห่งหนพัวพันตรงนั้นเร็วขึ้น หมายรวมสามารถตัดทอนอัตเฝือารเสียชีวิตยอมคว้า นอกจากนั้นแนวนโยบายณการดำรงผู้ติดโรค รัฐบาลประเทศสิงคโปร์ยังเล็งเห็นความสำคัญแห่งงานก่อสร้างที่ว่างระหว่างมนุชไปสู่วงในสังคม เพราะว่างานออกลูกมาตรการมากมาย ๆ อย่าง เช่น งานหยุดเรียน การจ้าเวลาทำงานให้ไม่แนวเดียวกัน หรือว่าเทศบัญญัติให้สื่อสารมุขต่อโทรศัพท์ไม่ก็คอมพิวเตอร์ เป็นต้น ซึ่งแนวทาง ‘break’ เหล่านี้จักช่วยลดโอกาสในงานแพร่ระบาดสรรพสิ่งไวรัส ป้องกันไม่แยกออกคลินิกตรงนั้นประกอบด้วยคนไข้แออัดเกินควร ด้วยกันก่อให้อัตรการติดเชื้อนั้นลดน้อยลง กับเมื่องานระบาดสรรพสิ่งไวรัสนั้นอีกทั้งสิงสู่กับกลางเมืองเจียรอีกสักช่องว่างเอ็ด อธิปกลีจึ่งแนะนำตัวปันออกประชาชนนั้นจัดแจงกับดักวิถีใหม่ ๆ เช่น การรักษาความสะอาด การนำแบบแผน (social norms) นวชาต ๆ มาใช้คืน ด้วยกันการหลบเลี่ยงเลี่ยงการรวมตัวในมนุชหมู่เต็มแรง เป็นต้นว่า การร่วมทางพระศาสนา อย่างแม่แบบในประเทศเกาหลี ที่มีการก่อเกิดงานระบาดของโรคครอบครองวงกว้าง (super spread) ซึ่งก่อเกิดขนมจากงานซ่อมสุมมุขพระศาสนาสรรพสิ่งหลักการชินชอนจีเศรษฐกิจนายกลีตกลงแหวเศรษฐกิจสรรพสิ่งประเทศสิงคโปร์ตรงนั้นไม่ผิดกระทบอย่างรุนแรงจากการกระจัดกระจายสรรพสิ่งเชื้อไวรัส COVID-19 ทางรัฐบาลจึงคลอดมาตรการงานลุ้นที่จำเป็นต้องใช้คืนเงินตราเต็มแรงจรด 4 พันกล้อนตราสหรัฐ เพื่อทวีคูณความคงตัวกับสงเคราะห์การงานแตกต่าง ๆ ภายใต้อันตรายดังนี้ มาตรการเหล่านี้ก็คงจะยังไม่พอเพียงแห่งอุตสาหกรรมแห่งครอบครองผลกระทบกระเทือนโดยตรงอาทิ ธุรกิจโรงแรม งานโผบิน การแพทย์ และฟรีตัวเงินตัวทองซ์ภายใต้ระยะเวลาการรับจ้างภาพร่างชั่วประเดี๋ยว (gig economy) ดังนั้นณปัจจุบันนี้รัฐบาลแล้วจึงได้มาพละวางแผนมาตรการใหม่ที่จะลุ้นธุรกิจต่าง ๆ แห่งด้านสรรพสิ่งเงินลงทุนด้วยกันกระแสเงิน (cost and cash flow) แยกออกเปลี่ยนอันตรายเศรษฐกิจนี้ไปคว้า รวมทั้งการดำรงธุรกิจสรรพสิ่งพนักงานวาง และครั้นเศรษฐกิจประเทศสิงคโปร์ตรงนั้นไปสู่สภาพความเป็นอยู่ปกติ มหาชนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มจำเดิมแห่งพร้อมด้วยกันทำได้มาอย่างมีประสิทธิภาพสุดโต่งจิตวิทยาหัวหน้าร้ายเล่าตวาดองค์การของแว่นแคว้นแห่งหนรอหน้า COVID-19 โดยตรงนั้นคว้าปฏิบัติราชการอย่างแรงประวิงเพื่อจะป้องกันงานกระจัดกระจายสรรพสิ่งเชื้อโรคและควบคุมสถานการณ์ภายในสิงคโปร์ กลางเมืองทั้งหมด ๆ มนุษย์ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พนักงานสำรวจคนเข้าเมือง ข้าราชการประจำ พนักงานการคมนาคมทั่วไป คนขับแท็กซี่ ด้วยกันเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด คนตรงนั้นเป็นกำลังจิตใจปันออกพนักงานเหล่านั้นด้วยความโปร่งสบายเหยาะสรรพสิ่งรัฐบาลทาบประชาชน มุขอธิปกลีนั้นยังกล่าวย้ำอีกดุแยกออกประชาชนเหยาะหน้ากากสุขศาลาก็ต่อเมื่อรู้ไม่สบาย ไม่หวาดวิตกตวาดอาหารกับของใช้ในร้านรวงจักขาดตลาด ตกลงแห่งมาตรการของรัฐบาล ด้วยกันสับเปลี่ยนพฤติกรรมตามคำแนะนำ เพราะว่าหัวหน้ากลีได้บอกขอบพระคุณที่ชาวสิงคโปร์ตรงนั้นประกอบด้วยความรับผิดชอบดามสังคมด้วยกันร่วมมือกับดักมุขรัฐบาลเป็นอย่างดี และขอบพระคุณแห่งแยกออกความมั่นใจกับสนับสนุน กับยังเสริมอีกดุสิ่งแห่งหนทำให้ประเทศสิงคโปร์ตรงนั้นผิดแผกแตกต่างจากประเทศอื่นก็ลงความว่างานที่พวกเรานั้นเชื่อณกันและกัน ฉันพบปะสถานการณ์ตรงนี้พร้อมกัน และอิฉันไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลังในสถานการณ์สถานที่มีการเสี่ยงดำเกิงอย่างนี้ ถ้าทุกคนคอยระวังระไวตื่น เพื่อรักษาตนเองด้วยกันครัวเรือน หมายรวมเป็นเหตุให้เศรษฐกิจสิ่งของฉันเคลื่อนจากไปตรงหน้า และณขณะวิกฤติอย่างนี้ ทุกคนมีบทบาทของตัวเองที่จะร่วมกันกับรัฐบาลเพื่อเอาใจช่วยแยกออกครอบครัวสรรพสิ่งฉันด้วยกันแดนประเทศสิงคโปร์ตรงนั้นหนักแน่น กับก้าวเจียรข้างหน้าด้วยกันอ้างอิง: CNA Newscovid-19singaporelee-hsien-loong