ภายหลังที่มีคำบัญชา lockdown ด้าวบังเกิดในอินเดีย และห้ามตะเวนระหว่างบุรีตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม จนถึง 14 เดือนที่ 4 เป็นเหตุให้ประเทศอินเดียจำเป็นจะต้องหยุดกระทำรถไฟเป็นครั้งแรกในรอบ 167 พรรษา ด้วยกันได้มีการเปลี่ยนทู่รถไฟเก่าก่อนกระทั่ง 20,000 ตู้จ่ายเป็นหอคนไข้สถานที่ติดเชื้อ COVID-19การรถไฟอินเดียนับว่าเป็นผู้ให้บริการรถไฟแห่งเทอะทะครอบครองอันดับ 4 ของโลก กับดำรงฐานะอู่ว่าจ้างสถานที่เทอะทะที่สุดในที่ประเทศอินเดีย และยังได้มาดำเนินการโรงหมอกว่า 125 ที่ทั่วราชอาณาจักร เพราะฉะนี้แล้วก็มีกรณีเชี่ยวชาญในงานขยายจำนวนรวมเก้าอี้คนไข้เดินครอบครองอย่างยอดเยี่ยม โดยก่อนหน้านี้ครั้นชันษา 1991 งานรถไฟอินเดียมีประสบการณ์ในที่การปกครองโรงพยาบาลบนบานรถไฟ Lifeline Express ให้บริการสืบสวนวินิจฉัยทางการแพทย์ด้วยกันศัลยกรรมระดับสูงเกี่ยวกับคนแก่กับเด็กบนบานศาลกล่าวการสร้างโรงพยาบาลเดินที่ได้มาตะเวนไปทุก 19 ชาติสรรพสิ่งประเทศอินเดียด้วยกันปฏิบัติประกบหมู่ชนกว่า 1 โล้นมนุชมาแล้วเพราะพอวันที่ 1 เดือนที่ 4ที่ผ่านมาประเทศอินเดียมีจำนวนรวมคนไข้ COVID-19 อยู่สถานที่จำนวน 4,288 ราย ด้วยกันตายสิงสู่ที่ 117 ราย ซึ่งถือเป็นจำนวนรวมที่โหรงเหรงมากเมื่อวัดกับดักจำนวนหมู่ชนงานสถานที่ประกอบด้วยอยู่กว่า 1,300 โล้นคน แต่ว่าระเบียบสาธารณสุขสรรพสิ่งอินเดียก็อีกทั้งไม่ไหวครอบคลุมได้อย่างพอเพียง ดังนั้นงานแปลงรถไฟดำรงฐานะเรือนหอคนเจ็บเคลื่อนที่เพิ่มเติมแล้วก็สามารถสนับสนุนลดการบีบบังคับทางบริการสาธารณสุขลงคว้าสมมติว่าจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเหตุด้วยตู้รถไฟที่ได้มาสร้างเป็นหอพักคนไข้นั้น แต่ละตู้จะสามารถรับคนเจ็บได้มายิ่งนักจด 16 คน และตู้ด้าน ๆ ทู่หอพักตรงนั้นจักดำรงฐานะแฟลตสรรพสิ่งบุคลากรทางการแพทย์ ด้วยกันประกอบด้วยห้องหับเพราะด้วยหยุดเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนั้นโรงพยาบาลรถไฟเดินตรงนี้จักประกอบด้วยความพร้อมที่จะไม่ผิดส่งจรยังที่ไรของอินเดียก็ได้แห่งกำลังพบเห็นกับดักวิกฤตโรงหมอเปล่าพอเพียง สมมติว่าประกอบด้วยผลรวมผู้ป่วยไวรัส COVID-19 เพิ่มรุ่งเรืองขึ้น พร้อมกันนี้ที่องค์การสาธารณสุขในที่ท้องถิ่นก็จักมอบหมายงานแยกออกแพทย์ นางพยาบาลด้วยกันอาสาสมัครไปกับรถไฟนั้นเช่นกันความพร้อมของระเบียบสาธารณสุขคือสิ่งจำเป็นทั้งนี้ก่อนที่จะก่อเกิดงานระบาดเทอะทะสิ่งของเชื้อไวรัส COVID-19 แต่เดิมประเทศอินเดียได้มาพบกับดักปัญหาการฝืดเคืองม้านั่งโรงหมออยู่หลังจากนั้น เพราะข้อมูลขนมจาก OECD ระบุตวาดประเทศอินเดียประกอบด้วยโรงหมอให้บริการพาง 0.5 เก้าอี้ต่อราษฎร 1,000 คน ซึ่งอันกลุ่มนี้ส่วนมากจะกระจุกเนื้อตัวสิงสู่ในที่เขตเมืองเพียงนั้น และประกอบด้วยความพร้อมที่การใช้งานสิ่งของแต่ละประเทศชาติที่แตกต่างห้ามอีกด้วย เป็นต้นว่า รัฐแคว้นมคธมุขบุรพทิศของอินเดียสมควรแบ่งของม้านั่งสิงสู่ที่ 0.11 เตียงประกบ 1,000 คนในขณะที่ประเทศชาติเบงกอลมุขชายหาดทิศประจิมประกอบด้วย 2.5 เตียงต่อ 1,000 คนสมมติว่าทบทวนมามองในประเทศสถานที่มีความพร้อมชนิดจีน จะมีคุณค่าแบ่งสิ่งของเก้าอี้โรงพยาบาลอยู่แห่ง 4 เตียงต่อราษฎร 1,000 มนุษย์ ซึ่งเป็นรูปเป็นร่างเลขก่อนที่จะประเทศจีนจะมีการโรงหมอเพื่อจะรับคนไข้ไวรัส COVID-19 ภายใน 10 ทิวากาล ในจังหวัดกรรณเป่ยซึ่งเป็นศูนย์กลางสิ่งของงานกระจัดกระจายสิ่งของโรคภัย“เราได้เหลือบเห็นชิ้นแห่งจีนพบลงมาแล้ว เพราะฉะนี้งานพอกพูนโรงพยาบาลมันเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องก่อ ไม่ว่าจักในที่หนทางไรก็ตาม ตลอดที่ระยะสั้นเรื่องเดิมการกระจัดกระจายสิงสู่ ด้วยกันในที่ระยะยาวจำต้องประกอบด้วยงานเป็นเหตุให้เป็นระบบเติบโต ภายหลังที่การระบาดที่ตอนนี้สิ้นสุดลง” Shahid Jameel มากหลายเชื้อไวรัสพิทยากับ CEO ของ Wellcome Trust / DBT India Alliance องค์กรการกุศลทั่วไปสถานที่ลงทุนการศึกษาค้นคว้าด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพอนามัยกับชีย้อนารหมอของอินเดีย กล่าวสมรรถสืบหากล่าวข่าวสถานการณ์ COVID-19 เศรษฐกิจด้วยกันการทำงานทุกวันได้ในที่Podcast-Techsauce Daily] EP14 – สิบ Apr 2020Spotify : https://spoti.fi/2Rs259pPodbean : https://bitมันสมองly/2JSfHqnSoundclound : https://bitมันสมองly/3eceE2osource Newsindiacovid-19innovation
https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2020/4/93043896_213630883199074_7362771803132919808_n.jpg
