Facebook เล่าสิ่งแห่งหนครอบครองอุปสรรคต่อเส้นทางงานจับจ่ายผลิตภัณฑ์สรรพสิ่งผู้ใช้ตกว่า ‘การโฆษณาแห่งหนไม่เกี่ยวข้อง’

Facebook บอกข้อมูลจากผลการศึกษาทีนวชาตตวาด อุปสรรคเรื่องเดิมขึ้นไปบนบานเส้นทางการจับจ่ายผลิตภัณฑ์สิ่งของผู้บริโภค ทำเอางานในประเทศประเทศไทยเสียโอกาสดำรงฐานะราคาถึง 1.4 หมื่นโล้นเครื่องราชอิสริยาภรณ์สหรัฐอเมริกา ดามพรรษา เพราะว่าหนึ่งที่ความติดขัด วรรณะต้นไม้ใบหญ้าๆ แห่งหนลูกค้าจำต้องประสบ เป็นต้นว่า โฆษณาการแห่งไม่เกี่ยวข้อง เสนอ ‘Zero Friction Future’ ของ Facebook แนะนำแหวการทำงานแหลมทองน่าจับเทคโนโลยีดิจิทัลลงมาชดใช้ด้วยกันเล่าขอบเขตการสื่อสารภาพร่างเดินสะพัดที่ใกล้กับดักประสบการณ์ในชีวิตจริงสรรพสิ่งผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น Facebook พูดประกาศเชิงดึ่มขนมจากทูล “Zero Friction Future” ล่าสุด พร้อมผลการศึกษาภายในประเทศแหลมทอง และทวีปเอเชียแปซิฟิคที่มาจากผลสำรวจซึ่งจัดทำขึ้นไปโดย Boston Consulting Group (BCG) โดยเสนอดังที่กล่าวมาแล้ว ได้มาระบุจดความไม่สะดวกที่แต่ละขบวนการของกระบวนการค้าขาย (frictions) กับระบุถึงบทบาทประธานแห่งหนโซลูชั่นขนมจาก Facebook สมรรถอำนวยความสะดวกแยกออกทางการจับจ่ายสินค้าทุ่งหญ้าสดชื่นขึ้นไปด้วยผู้ซื้อในประเทศประเทศไทย ผลสำรวจโดย Facebook กับดักผู้บริโภคคนไทยปริมาณ 1,200 มนุษย์แห่งหนซื้อผลิตภัณฑ์หรือว่าบริการณอุตสาหกรรมหลัก เช่น อีคอมเไม่ร์ซ ค้าปลีก ด้วยกันบริการข้างการเงิน ไม่ว่าจักดำรงฐานะจากช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ ได้มาไม่มิดชิดแหวร้อยละ 90 สรรพสิ่งลูกค้าในประเทศแหลมทองต้องประสบความติดขัดที่แต่ละขั้นตอนสิ่งของวิถีทาง การจ่ายของซื้อของขาย และอัตราร้อยละ 50 ปลงใจเปล่าดำเนินขั้นตอนการจ่ายสินค้าต่อเมื่อพบพานความไม่สะดวก อันแห่งหนเป็นอุปสรรคประกบวิถีทางงานจ่ายสินค้าสรรพสิ่งผู้ซื้อคือว่า ‘การโฆษณาแห่งไม่เกี่ยวข้อง’ เพราะเอ็ดในอุปสรรค วรรณะต้นไม้ใบหญ้าๆ แห่งหนลูกค้าจำต้องพบปะ ได้แก่ โฆษณาการแห่งไม่เกี่ยวข้อง เพราะว่าประกอบด้วยจรดเปอร์เซ็นต์ 63 สรรพสิ่งลูกค้าอีคอมเมิร์เซื่องซึมีความโอนเอียงที่จะไม่ไปกระบวนการต่อเมื่อโฆษณาหรือข้อแนะนำไม่มีความสัมพันธ์กับดักเขาทั้งหลาย ในขณะที่เปอร์เซ็นต์ 53 สรรพสิ่งลูกค้าเพื่อค้าปลีก กับอัตราร้อยละ 64 สรรพสิ่งผู้ซื้ออีคอมเมิร์ซคาดการณ์ตวาดการทำงานจักเล่าสิ่งที่เกี่ยวพัน กับพวกเขา อัตราร้อยละ 65 สิ่งของผู้บริโภคด้วยค้าปลีกคาดหวังความสอดคล้องระหว่างโฆษณาด้วยกันสนนราคาความจริงจริงๆ เมื่อจับจ่ายผ่านออนไลน์ เพราะว่าอัตราร้อยละ 66 สรรพสิ่งลูกค้าอีคอมเมิร์ซด้วยกันอัตราร้อยละ 67 ของผู้บริโภคแห่งหนใช้บริการข้างการคลัง กล่าวว่าพวกเขาจะเปล่าปฏิบัติการชำระเงิน เมื่อราคาหรือว่ารายละเอียดข้อเสนออันที่จริงจริงๆผิดแผกแตกต่างขนมจากการโฆษณา นอกจากนี้ บอกดังกล่าวอีกทั้งได้บอกล่วงหน้าตวาดโอกาสแห่งหนเสื่อมโทรมไปณแต่ละชันษาขนมจากอุปสรรคระหว่างทาง งานซื้อสินค้าสิ่งของลูกค้าในภูมิภาคทวีปเอเชียแปซิฟิก มีมูลค่าอยู่แห่ง 3.25 แสนกล้อนเหรียญตราสหรัฐอเมริกา กับด้วย ในประเทศไทย โอกาสอันควรแห่งเสียจรขนมจากความติดขัดดังกล่าวไม่ผิดหยั่งแหวมีมูลคุณประโยชน์สิงสู่แห่งหน 1.4 หมื่นกล้อนเครื่องราชอิสริยาภรณ์สหรัฐฯ ผลการศึกษาบอกให้เห็นตวาดอุตสาหกรรมหลักเขต เช่น อีคอมเมิร์ซ การค้าขายปลีกตัว กับบริการข้างการเงิน สมรรถมากขึ้นเงินรายได้ได้มามากจด 2.63 โพกกล้อนเครื่องราชอิสริยาภรณ์อเมริกา 2.08 โพกล้านเครื่องราชอิสริยาภรณ์สหรัฐฯ กับ 127 กล้อนเครื่องราชอิสริยาภรณ์อเมริกา เป็นลำดับ สมมติว่าความไม่สะดวกปะปนกัน ที่วิถีทางงานซื้อผลิตภัณฑ์สรรพสิ่งผู้บริโภคถูกกำจัดจร ภายในปี พุทธศก 2563 ยิ่งกว่าอรรธสรรพสิ่งพื้นโลกแห่งหนมีการเชื่อมต่อกักคุมนี้จักซื้อผลิตภัณฑ์เปลี่ยนช่องทางออนไลน์ และอัตราร้อยละ 85 ของการปฏิสัมพันธ์กับดักผู้ซื้อจะถูกบริหารเพราะว่าไม่ต้องใช้คน ณปี 2560 คาดเปอร์เซ็นต์ 4 สิ่งของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศแหลมทองมาจากผลิตผลด้วยกันบริการดิจิทัลซึ่งสร้างสรรค์ขนมจาก การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลต่อหน้า ด้วยกันการปฏิรูปเศรษฐกิจสู่ดิจิทัลไม่ผิดคาดการณ์ตวาดจักนำมาซึ่งราคาผลิตผลมวลรวม ในประเทศแหลมทองที่ทวีอีก 9 พันโล้นตราสหรัฐอเมริกา (ประมาณการ 2.82 แสนโล้นตีน) ภายในปี พุทธศก 2564 จอห์น แย้อนเนอร์ ผู้ดูแลจัดการ Facebook แหลมทอง บอกณระหว่างการเปิดเผยผลการศึกษาตวาด “ณปัจจุบัน นับว่าเป็นเรื่องปกติสิ่งของการงานที่จะการโฆษณาผลิตภัณฑ์กับบริการผ่านทางออนไลน์ แต่ว่าความท้าตกว่า การงานพวกนั้นจักประกอบด้วยการพัฒนากรรมวิธีปฏิบัติเชิงดิจิทัลอย่างไร เพื่อให้พวกเขาสนองตอบ ความปรารถนาด้วยกันความคาดหวังสรรพสิ่งลูกค้าแห่งแปรไปชนิดไม่เคยเป็นมาก่อนกำหนด” “ผลการศึกษาได้มาประเจิดประเจ้อแหว อัตราร้อยละ 55 สิ่งของลูกค้าณภาคเอเชียแปซิฟิกกินเวลารอคอยงานดาวน์โหลดของเว็บไซต์ น้อยกว่า 5 วินาที ก่อนที่จะพวกเขาจะจากเว็บไซต์นั้น อัตราร้อยละ 80 เชื่อดุความช่ำชองแห่งหนงานชี้แจงนั้นมีความสำคัญ พอๆ กับผลิตผลไม่ก็บริการ กับเปอร์เซ็นต์ 44 จอดดำเนินขั้นตอนเพื่อที่จะจับจ่ายผลิตภัณฑ์กับดักกงสีไหนหุ้นส่วนเอ็ด ครั้นพวกเขาประสบกับความช่ำชองการติดต่อสื่อสารแห่งปราศจากคุณค่า “แห่งหน Facebook ดีฉันตั้งใจที่จะสงเคราะห์การงานไทย ณการออกแบบกลอุบายการตลาดที่ประกอบด้วยความเกี่ยวข้องกับดักผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถลุ้นแยกออกพวกเขาลดความไม่สะดวกที่ทางการจ่ายสินค้าสรรพสิ่งผู้บริโภค และนำมาซึ่งยอดจำหน่ายที่มากขึ้นขึ้นไป” จอห์น แย้อนเนอร์ ผู้ดูแลว่าการ Facebook ประเทศไทยการงานแหลมทองน่าจะนำเทคโนโลยีลงมาชดใช้กับบรรยายอาณาเขตการสื่อสารฉบับร่างหมุนเวียนแห่งใกล้ชิดกับความช่ำชองของผู้บริโภค ทูล “Zero Friction Future” สิ่งของ Facebook แนะนำแหวการทำงานประเทศไทยน่านำเทคโนโลยีดิจิทัลลงมาชดใช้ด้วยกันบรรยายขอบข่ายการติดต่อสื่อสารต้นร่างหมุนเวียนแห่งหนจรดกันกับดักความจัดเจนณชีวิตจริงของผู้ซื้อมากยิ่งขึ้น การงานไทยควรจะสร้างสรรค์ความจัดเจนคมนาคมกับผู้ซื้อเปลี่ยนต่างๆนาๆช่องทาง (omni-channel) เช่นกันการชดใช้เครื่องอุปกรณ์กระยาเลย เช่น การปรับฟีดให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โฆษณาแห่งทรงพลังและประสาน ส่วนประกอบปะปนกัน ไม่ว่าจักครอบครอง Instagram กับฟีพบร์ Stories รวมถึงการใช้งาน Messenger เพื่อจะเจรจากับดักผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง จอห์นยังย้ำเช่นกันตวาดที่แต่ละจันทรา มีการงานปริมาณ 3 กล้อนรายโฆษณาเปลี่ยน Stories บน Facebook, Instagram ด้วยกัน Messenger รวมถึงโฆษณาการณหนทางวิดีโออีกต่างหากดำรงฐานะเครื่องอุปกรณ์ที่ก่อสร้างความหวังแจกกับแบรนด์ไทยกระยาเลย เปลี่ยน Facebook Watch ซึ่งครอบครองทางงานดูวิดีโอของ Facebook แห่งประกอบด้วยตำแหน่งงานเจริญ ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นไม้ใบหญ้าๆ แห่งหนประกอบด้วยขณะการสารภาพเพ่งวิดีโอบนบาน Facebook Watch ยิ่งประเทศเอ็ด ภายในการทำงานดังที่กล่าวมาแล้วที่แจ๋ขึ้นไปโดย Facebook ยังคว้ามี ภูต์ค รัฟลีย์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารลูกค้า เอียงสสมาร์ท โลตัส ไทย ได้มาให้ข่าวสารถึงกรรมวิธีที่เอียงสผึ่งผายจับโซลูชั่น Zero Friction Future ลงมาใช้ เพราะว่ากล่าวว่า “การค้าขายหลีกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่ว่างเว้น การแห่งหนคนไทยกินเวลาบนโทรศัพท์มือถือยิ่งกว่าแดนอื่นๆ ณแหล่งหล้าตรงนี้ครอบครองชิ้นที่น่าตื่นเต้นและประกอบด้วยคดีท้าทายเพื่อการทำงาน ในปัจจุบัน ผู้บริโภคจับจ่ายสินค้าจากหลากหลายทาง กับอุดมพวกเขาได้รับความช่ำชองทุ่งหญ้ารื่นขนมจากแบรนด์จังเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีแนวโน้มแห่งพวกเขาจะจับจ่ายสินค้ากับแบรนด์ดังกล่าวจำเริญทัดเทียมตรงนั้น” “ที่ Tesco ฉันชี้แจงโซลูชั่นทั่วด้วยทางออนไลน์กับออฟไลน์แห่งหนหลากหลายให้กับดักลูกค้า ตั้งแต่เครื่องอ่านผับรหัส เจียรจวบจนกระทั่งเล็กพทหาริเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เส้นทางการจ่ายสินค้าของผู้บริโภคเรียบง่ายมากตกขอบตราบที่จะอาจจะ โซลูชั่นขนมจาก Facebook ช่วยแยกออกดีฉันเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มามากยิ่งขึ้น กับเล่าความจัดเจนที่มีความเกี่ยวข้องด้วยกันตอบสนองความปรารถนาของเขาทั้งหลายได้มา ชนิดทันท่วงที การกำจ้าความติดขัดเหล่านี้ที่งานสิ่งของอีฉัน เป็นเหตุให้ฉันมองเห็นอัตราการจับจ่ายผลิตภัณฑ์แห่งเจริญ เปลี่ยนเล็กพทหาริเคชั่นที่เติบโตขึ้นจรด 5 สมดุล และทำให้ฉันมีข่าวสารชายลึกแห่งหนสำคัญแห่งเกี่ยวข้องฐานผู้บริโภคสิ่งของอีฉันอีกด้วย” ซาตาน์ค รัฟลีย์ ประธานกรรมการฝ่ายบริหารผู้ซื้อ เทสผึ่งผาย โลตัส ด้าวแหลมทอง“งานเติบโตสรรพสิ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้นหมายถึงความคาดหวัง ความต้องการดาม ความคล่องแคล่ว ความสะดวกสบายดี ด้วยกันความเรียบง่ายสิ่งของผู้ซื้อที่ทวีคูณรุ่งเรืองขึ้นไป ด้วยเหตุที่ความจัดเจนมุขช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้มาถูกนำมาร่วมเข้าด้วยกัน การงานกับชุมชนในประเทศแหลมทองกำลังปรับเปลี่ยน ทางงานซื้อสินค้าสู่ดิจิทัล “Facebook จึ่งได้แจกข่าวสารเกี่ยวการปฏิรูปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลสิ่งของแดน กับทีมงานสิ่งของดีฉันตั้งหน้าทำอย่างต่อเนื่องเพื่อดันโครงการด้วยกันสร้างโอกาสอันควรกระยาเลย ที่จะช่วยแยกออกการทำงานและที่โล่งแจ้งในประเทศแหลมทองก้าวหน้าณเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลอีกด้วย” PR NewsFacebookTesco LotusCustomer ExperienceZero Friction Future

https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2020/1/E9CCD382-BEBF-4032-9F19-652D12CDB6FC.jpeg

https://storage.googleapis.com/techsauce-prod/ugc/uploads/2020/1/75D44C7C-6581-48BE-884F-3C55D3D79EF1.jpeg